ผู้นำสูงสุดของอิหร่านประกาศ "เอาคืนอย่างสาสม" หลังจากสหรัฐส่งอากาศยานยิงถล่ม สังหารนายพล ผบ.หน่วยรบพิเศษอิหร่านดับ ในเมืองหลวงอิรัก ทางด้านเลขาฯยูเอ็นออกโรงเรียกร้องทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นสูงสุด ท่ามกลางความตึงเครียดร้อนระอุในตะวันออกกลาง
จากเหตุการณ์เครื่องบินรบและโดรนกองทัพสหรัฐ ยิงจรวดโจมตีขบวนรถยนต์ ที่กำลังแล่นอยู่บนถนนใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติแบกแดด เมืองหลวงอิรัก เมื่อช่วงรุ่งสางวันศุกร์ (3 ม.ค.) ทำให้รถยนต์พังพินาศและไฟลุกท่วม และมีผู้เสียชีวิต 9 ศพ รวมถึง พล.ต.กาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ "คุดส์" ในสังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน และนายทหารระดับสูงของอิหร่านและอิรักอีกหลายนาย
ที่กรุงเตหะราน เมื่อวันศุกร์ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาห์เมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประกาศผ่านแถลงการณ์ ว่า อิหร่านจะล้างแค้นอย่างสาสม ให้กับการเสียชีวิตของ พล.ต.โซเลมานี พร้อมกับประกาศการไว้อาลัยทั่วประเทศ เป็นเวลา 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.
ส่วนนายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวประณามการกระทำของสหรัฐว่า “โง่เง่า” และถือเป็นการก่อการร้ายข้ามชาติ พร้อมทั้งเตือนว่าสหรัฐจะได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน
ทางด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา หรือ เพนตากอน เผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ออกคำสั่ง "สังหาร" พล.ต.โซเลมานี หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงในอิรักที่ฝักใฝ่อิหร่าน บุกปิดล้อมสถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดด
ที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายฟาร์ฮาน ฮัก โฆษกส่วนตัวของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น อ่านแถลงการณ์ของกูเตอร์เรส ว่า นายกูเตอร์เรสมีความวิตกอย่างยิ่ง ต่อความตึงเครียดที่สูงขึ้นในตะวันออกกลาง หลังจากสหรัฐสังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่านในกรุงแบกแดด และขอเรียกร้องต่อทุกฝ่ายให้ใช้ความอดกลั้นขั้นสูงสุด เนื่องจากภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ไม่อาจเกิดสงครามได้อีก.