หั่น ผบ.เหล่าทัพพ้น ส.ว. ประเดิมเขย่าขวัญการเมือง 63

2020-01-03 11:15:53

หั่น ผบ.เหล่าทัพพ้น ส.ว. ประเดิมเขย่าขวัญการเมือง 63

Advertisement

ไม่ว่าจะพูดในเชิงหลักการ หรือมีนัยทางการเมืองเคลือบแฝง แต่ความเห็นของประธานสภาฯชวน หลีกภัย ไม่เห็นด้วยกับ ผบ.เหล่าทัพเป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง เนื่องจากไม่ถูกหลักประชาธิปไตย กลายเป็นจุดปมร้อนการเมืองให้ระอุ ตั้งแต่ต้นปี 2563


เปรียบไปแล้วก็ประมาณ "แหย่รังแตน" เข้าให้อย่างจัง แล้วผลที่ตามมาก็อย่างที่คาดการณ์กันล่วงหน้า

ส.ว. ชุดปัจจุบันที่มาจากการเคาะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งยังเป็นหัวหน้า คสช. ออกโรงขวางแนวทางนี้ทันควัน โดยตั้งข้อสังเกตุอย่างมีนัยว่า เป็นการยึดอำนาจและอาจขยายผลไปยังส่วนอื่นๆ ของ ส.ว. หรือไม่

นายเสรี สุวรรณภานนท์ หนึ่งใน ส.ว. ได้พยายามแจกแจงเพิ่มเติม โดยย้ำว่า ผบ .เหล่าทัพเป็นฝ่ายความมั่นคง เข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยในตำแหน่ง ส.ว. เพียง 5 ปีตามบทเฉพาะกาลเท่านั้น ทำไมต้องรีบร้อนแก้ไข


แม้นข้อเสนอของนายชวน จะมีเสียงขานรับอย่างดียิ่งจากลูกพรรคประชาธิปัตย์อย่างนายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช หนึ่งใน 6 ส.ส. ปชป. ที่เคยโหวตสวนมติพรรค เรื่องตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาประกาศและผลกระทบจากการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ซึ่งเป็นญัตติที่ครั้งแรกรัฐบาลแพ้โหวตฝ่ายค้าน ก่อนจะพลิกเกมและอาศัย ส.ส.งูเห่า กลับมาเอาชนะได้ในท้ายที่สุด


แน่นอนว่า ความเห็นของนายชวน ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งสังกัดพรรคร่วมรัฐบาล อาจจุดกระแสความไม่พอใจให้ปรากฎขึ้น ทั้งกับพรรคแกนนำอย่างพลังประชารัฐ ที่แกนนำบางคนเคยเอ่ยปากทวงบุญคุณที่มีให้กันมาแล้ว และสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจะมีบทบาทสูงอย่างมากสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอย่างน้อย ต้องมีเสียงเอาด้วย ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 84 เสียงขึ้นไป

จึงเป็นหนึ่งในปมร้อนการเมือง ที่จะเพิ่มดีกรีให้ปรากฎตั้งแต่ต้นปี 2563 เพราะในอีกด้านหนึ่ง กรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน จะประชุมนัดที่ 2 หารือเรื่องแนวทางและเนื้อหาที่เห็นควรต้องมีการแก้ไขในอีกไม่กี่วันนี้ เรื่องบทบาทและอำนาจ ส.ว.จึงถูกจับตาเป็นพิเศษ ว่าจะกล้าแตะมากน้อยแค่ไหน

ขณะที่กิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" วันที่ 12 มกราคม 2563 ที่สวนวชิระเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ ก็ถูกคาดหมายว่าจะเป็นปฐมฤกษ์ของการเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ ของกลุ่มต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ส่วนหนึ่งโครงการนี้ร้อนแรงขึ้น ถึงขั้นมีผู้ลงทะเบียนไว้เบื้องต้น 8 พันคนเพราะการเปิดหน้าสนับสนุนอย่างชัดเจนของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งว่ากันว่า ไม่มีอะไรจะสูญเสียกว่านี้อีกแล้ว เพราะคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ประตูก็เปิดอ้ารออยู่ในวันที่ 21 มกราคม 2563 อยู่แล้ว

ยังมีเรื่องร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปี 63 ของรัฐบาล ที่กำหนดเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 8-9 มกราคม 2563 ที่จะถึงนี้ ซึ่งต้องมีการโหวตเสียงทั้งวาระ 2 และ 3

ต่อด้วย การเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน กำหนดจะยื่นเสนอต่อสภาฯ ภายในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม แต่อาจได้บรรจุเป็นหนึ่งวาระการประชุมได้ ในราวเดือนกุมภาพันธ์ 2563

เท่ากับคอการเมืองพันธุ์แท้ จะมีเรื่องการเมืองให้ติดตามและลุ้นกันตัวโก่งหลายเรื่อง ตั้งแต่เดือนแรกของปี 2563 เลยทีเดียว โดยไม่ต้องเสียเวลารอนาน

ส่วนจะเข้มข้น เร้าใจ สมกับที่คุยไว้หรือไม่ เป็นอีกกรณีหนึ่งครับ