กมธ.งบประมาณตั้ง 9 ข้อสังเกตกระทรวงกลาโหม ติงงบซื้อเรือดำน้ำสูง ต้องชี้แจงประชาชนได้เตรียมเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ถก วาระ 2 - 3 ระหว่าง 8-9 ม.ค.นี้
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 8-9 ม.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.30น. เป็นต้นไป เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญฯพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระที่2และ3 ทั้งนี้ กมธ.วิสามัญที่มีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธาน ได้จัดทำรายงานพร้อมกับข้อสังเกตต่อการจัดสรงงบประมาณในภาพรวมและรายกระทรวง โดยหนึ่งในนั้น คือ กระทรวงกลาโหม โดย กมธ.วิสามัญมีความคิดเห็นต่อการจัดทำงบประมาณของกระทรวงกลาโหมไว้ 9 ประการ ดังนี้1.กระทรวงกลาโหม ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิการของทหารผ่านศึกและครอบครัวและทหารนอกประจำการที่รับการสงเคราะห์ทุกประเภท ตามสิทธิ์ที่ได้รับตามกฎหมาย 2.กระทรวงกลาโหม ควรให้ความสำคัญกับกำลังพลในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณโดยควรใช้วิธีการรับสมัครแทนการเกณฑ์ทหารทำให้สามารถคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถและมีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการกำลังพล เพื่อรองรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น ภัยคุกคามทางด้านเทคโนโลยี เป็นต้น เพื่อยกระดับกองทัพให้มีสมรรถนะสูง (Smart Troops)
3.กระทรวงกลาโหม ควรกำหนดภารกิจด้านการปกป้องสถาบันหลักของชาติและเสริมสร้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้เป็นภารกิจประจำของกระทรวงกลาโหม4.ที่ผ่านมากองบัญชาการกองทัพไทยให้ความช่วยเหลือในการบรรเทาสาธารณภัยมาโดยตลอด ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยควรสนับสนุนภารกิจด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในเชิงบูรณาการร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยโดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานหลัก
5.กองบัญชาการกองทัพไทย ควรปรับปรุงหลักสูตรของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งเปลี่ยนเป็นสงครามด้านเศรษฐกิจที่เน้นความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นหลัก 6. กองทัพอากาศ ควรทำหน้าที่ในการกำกับและกำหนดมาตรการควบคุมการใช้อากาศยานไร้คนขับให้ครอบคลุม โดยคำนึงถึงทั้งทางด้านความมั่นคง และสิทธิของประชาชน 7.การตั้งงบประมาณของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ โดยเฉพาะด้านการวิจัยควรสอดคล้องกับความต้องการของกองทัพว่าต้องการให้สถาบันฯ วิจัยเรื่องใด เพื่อจะได้นำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ให้เกิดความคุ้มค่ากับงบประมาณและมีการนำไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงตรงกับความต้องการของทุกเหล่าทัพ
8.ในคำขอรับงบประมาณเพื่อดำเนินภารกิจในโครงการที่เป็นประเด็นความอ่อนไหวทางสังคม ควรเป็นชื่อโครงการที่ไม่ก่อให้เกิดความเห็นต่าง และความขัดแย้งภายในสังคม 9.กรณีการตั้งของบประมาณเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือซึ่งเป็นการใช้จ่ายงบประมาณค่อนข้างสูง ควรจัดซื้อเพื่อความจำเป็นต่อภารกิจอย่างแท้จริง โดยต้องสามารถชี้แจงแสดงเหตุผลทำความเข้าใจต่อประชาชนได้