เจ้าหน้าที่ตำรวจออสเตรเลีย แถลงเมื่อวันพุธว่า ไฟป่าที่โหมลุกไหม้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ล่าสุด คร่าชีวิตประชาชนเพิ่มอีกอย่างน้อย 7 คนตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และเผาผลาญบ้านเรือนไปแล้วมากกว่า 200 หลังขณะลุกลามเข้าสู่พื้นที่ชายฝั่งในสัปดาห์นี้ ส่วนในรัฐวิกตอเรีย สถานการณ์คลี่คลายลงเล็กน้อย และถนนสายหลักที่ถูกปิดก่อนหน้านี้ ก็เปิดให้ประชาชนสัญจรได้อีกครั้งนาน 2 ชั่วโมงในวันพุธ
สื่อท้องถิ่นรายงานด้วยว่า ยังมีผู้เสียชีวิตในรัฐวิกตอเรียเพิ่มอีก ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวกับไฟป่าทั่วออสเตรเลีย เพิ่มเป็นอย่างน้อย 18 คนแล้ว และมีคำเตือนว่าอาจเพิ่มขึ้นอีก ส่วนบ้านเรือนที่ถูกไฟเผาเสียหายนั้น มี 43 หลังอยู่ในเมืองอีสต์ กิปป์สแลนด์ รัฐวิกตอเรีย ส่วนอีก 176 หลังอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์
ในช่วงเช้าวันพุธ สำนักงานดับเพลิงชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ แถลงว่า มีบ้านเรือน 916 หลังถูกเผาหวอดในฤดูไฟป่าปีนี้ อีก 363 หลังได้รับความเสียหาย และ 8,159 หลังปลอดภัย
ส่วนในเมืองมัลลาคูตา รัฐวิกตอเรีย ซึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายพันคนต้องหลบหนีไฟป่าลงไปในชายหาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตำรวจต้องใช้เรือบรรทุกน้ำดื่ม 1.6 ตันไปช่วยผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังนำอาหาร, ยารักษาโรคไปให้ด้วย ขณะเดียวกัน ตำรวจก็เตือนประชาชนในเมืองซันบิวรี รัฐวิกตอเรีย ห่างจากตะวันตกเฉียงเหนือของเมลเบิร์น ประมาณ 40 กิโลเมตร อพยพออกจากพื้นที่ ตามคำเตือนสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประกาศใช้ไปแล้ว
ไฟป่าได้ทำลายพื้นที่ป่าไปแล้วมากกว่า 25 ล้านไร่ และไฟป่าจุดใหม่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดและกระแสลมแรง อีกทั้งบางพื้นที่ยังเกิดฟ้าผ่า ซึ่งก็ทำให้เกิดไฟไหม้ตามมา แต่สภาพอากาศที่เย็นลงในวันพุธ ก็ทำให้ไฟป่าลดลง แม้ว่าจะยังคงไหม้ลามอยู่กว่า 100 จุดในรัฐนิวเซาท์เวลส์เพียงรัฐเดียว และยังมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันคนปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่