“เทพไท” อวยพรให้คนไทยทุกคน ก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจของบ้านเมืองไปให้ได้
เมื่อวันที่ 1. ม.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ได้เฟซบุ๊กไลฟ์ จากสภากาแฟลาว ร้านเยี่ยมโอชา ตลาดชะอวด เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ว่าวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ ขออวยพรให้คนไทยทุกคน จงก้าวผ่านวิกฤติเศรษฐกิจของบ้านเมืองไปให้ได้ เพราะในปีใหม่นี้ คนไทยทุกคนต้องเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจของบ้านเมืองในทุกๆด้าน หลายคนบอกว่าปีที่ผ่านมาเป็นการเผาหลอก ปีนี้จะเป็นการเผาจริง ทำให้หลายคนต้องตื่นตระหนกกับภาวะเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะหลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 ปี ภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ปีนี้ ตนได้มีโอกาสไปเดินตลาดนัดหลายแห่ง เพื่อไปสำรวจภาวะเศรษฐกิจ และสวัสดีปีใหม่กับพ่อค้าแม่ค้า และผู้มาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าในตลาดนัด ทุกคนจะบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีเงินซื้อของ พ่อค้าแม่ค้าก็บ่นกันว่าขายของไม่ได้ และตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจพี่น้องประชาชนที่ใช้ชีวิตภายใต้เศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ไม่ใครจะออกมายืนยันว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่ดัชนีที่วัดภาวะเศรษฐกิจที่ดีที่สุดก็คือเงินในกระเป๋าของชาวบ้าน ซึ่งจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
นายเทพไท กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ของบ้านเมืองตลอดปี2563 สภาพเศรษฐกิจของประเทศจะขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ คือ 1.สินค้าพืชผลการเกษตรยังคงตกต่ำ พืชหลัก 5 ชนิด ที่ได้รับการประกันรายได้ของเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาล คือ ข้าว ยางพารา ปาล์มนำ้มัน ข้าวโพด มันสำปะหลัง ราคาท้องตลาดยังไม่ทะลุเพดานราคาประกันของรัฐบาล ยกเว้น ปาล์มนำ้มัน ที่ตอนนี้ราคาทะลุราคาประกัน กก.ละ4บาท อยู่ที่ กก.ละ6.50บาท 2.ยอดการส่งออกของประเทศลดลง7% ซึ่งกระทบต่อรายได้ของประเทศเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมด้านต่างๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 3.โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง ประกาศเลิกกิจการ ปิดโรงงาน คนงานตกงาน กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ครัวเรือนต่างๆมากมาย 4.อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ประกาศย้ายฐานผลิตจากประเทศไทยไปยังประเทศอื่น 5.เงินบาทแข็งค่า มีผลกระทบต่อการส่งออก และกระทบต่อการแข่งขันทางการค้ากับประเทศอื่นๆ 6.หนี้ครัวเรือนของประชาชนสูงเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง 7.งบประมาณรายจ่ายของรัฐ ประจำปี2563 ประกาศใช้ล่าช้าไปจากปกติประมาณ 5 เดือน กระทบต่อแผนงานการลงทุนภาครัฐ
“ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จะส่งกระทบต่อสภาพคล่องของประเทศ และกำลังซื้อของประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งระดมความคิด และหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจเรื่องปากท้องของประชาชนให้เร็วที่สุด สร้างทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลให้เข้มแข็ง มีเอกภาพ ทำงานแบบบูรณาการเพื่อกอบกู้สภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤติไปให้ได้
ในฐานะสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลคนหนึ่ง ขอเป็นกำลังใจและสนับสนุนให้รัฐบาลชุดนี้ทำงานบริหารประเทศอย่างเต็มความสามารถ และจะขอเป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชน ขอให้คนไทยทุกคนจับมือกันฝ่าฟันวิกฤติของประเทศไปให้ได้ด้วยกัน”นายเทพไท กล่าว