บุกจับ “3 รีสอร์ท” อ.แม่ริม รุกพื้นที่ป่าสงวน

2019-12-26 17:50:36

บุกจับ “3 รีสอร์ท” อ.แม่ริม รุกพื้นที่ป่าสงวน

Advertisement

เจ้าหน้าที่ป่าไม้และตำรวจ บุกจับรีสอร์ท อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ รุกพื้นที่ป่าสงวนจำนวน 3 ราย

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 26 ธ.ค.62 นายสมบัติ กลมเกลี้ยง พนักงานพิทักษ์ป่าไม้ ส.3 ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าเชียงใหม่ที่ 10 (ห้วยทราย) พ.ต.ต.จรัญ ชัยประพันธ์ สารวัตรเวร สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้และตำรวจ สภ.แม่ริม เข้าตรวจสอบที่บริเวณรีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งใน ต.โป่งแยงนอก อ.แม่ริม พบว่า ได้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสร้างบ้านพักทั้งหมด 4 หลัง ลานกางเต็นท์ ขุดสระและทำอาคารในพื้นที่ป่า กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ จุดที่ 2 เป็นพื้นที่ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จากการตรวจสอบพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่ากว่า 1 ไร่ มีการก่อสร้างอาคารบ้านพักทั้งหมด ประมาณ 10 หลัง และจุดที่ 3 ต.แม่แรม เช่นกัน พบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสร้างเป็นบ้านพักและห้องพักแบบน็อคดาวน์ทั้งหมดประมาณ 10 กว่าหลัง นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์อีกเป็นจำนวนมาก

หลังตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบการข้อหาก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาหรือกระทำการด้วยการใดๆอันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำการด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต




สำหรับพื้นที่ม่อนแจ่มนั้น เป็นพื้นที่โครงการหลวงขออนุญาตกรมป่าไม้ขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติประมาณ 18,000 กว่าไร่ก่อนปี 2541 หลังจากนั้นได้มีการจัดสรรเมื่อเดือน มิ.ย.2541 ตามมติ ครม.อนุญาตให้ประชาชนเข้ามาอาศัยและใช้ที่ดินทำกิน โดยมีประชาชนใน 3 หมู่บ้านมีประชากร 3,800 คน คือบ้านหนองหอยเก่า หนองหอยใหม่ และบ้านแม่ขิ มีการขอใช้พื้นที่ 2,800 ไร่ เพื่อปลูกพืชเมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น และต่อจากนั้นเมื่อปี พ.ศ.2545 ก็ได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยมีการสร้างบ้านพักหลังแรก แต่มาได้รับความนิยมในปี พ.ศ. 2552 เมื่อมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทำให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันทำวิสาหกิจชุมท่องเที่ยวม่อนแจ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 53 ราย ไม่ได้อยู่ในกลุ่มอีก 30 กว่าราย ทำให้มีผู้ประกอบการบนดอยม่อนแจ่มมากกว่า 83 ราย นอกจากนี้ยังพบว่า มีนายทุนต่างพื้นที่เข้ามาเป็นผู้ประกอบการด้วยซึ่งการท่องเที่ยวในม่อนแจ่มนั้นปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเที่ยว ทำให้มีการบุกรุกเพิ่ม กางเต็นท์เพิ่มเรียงรายหลายพันหลังโดยข้อมูลจากวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวม่อนแจ่มรายงานว่า มีเงินสะพัดวันละ 5 ล้านบาทซึ่ง 3 เดือนช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจะมีเงินสะพัดมากกว่า 500 ล้านบาท

โดยการตรวจสอบ ดอยม่อนแจ่มของกรมป่าไม้ เนื่องจากปัจจุบันดอยม่อนแจ่มมีการบุกรุกพื้นที่จำนวนมาก โดยมีนอมินี หรือกลุ่มนายทุน มาลงทุนเพื่อก่อสร้างที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยทางกรมป่าไม้ ทางฝ่ายปกครอง และทางตำรวจ กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขยายผลการดำเนินการต่อไป โดยการจับกุมทั้ง 3 รีสอร์ท ในครั้งนี้เป็นรีสอร์ท ที่มีการก่อสร้างใหม่จากที่ป่าไม้ทำการสำรวจเมื่อเดือน ก.ค.2562 ที่ผ่านมาสำหรับรีสอร์ท อื่นๆอีกจำนวนกว่า 80 แห่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป