เจ้าหน้าที่ศุลกากรเวียดนามจับกุมงาช้าง และเกล็ดลิ่น หรือเกล็ดตัวนิ่ม รวมน้ำหนักกว่า 2 ตัน ที่ท่าเรือทางภาคเหนือของประเทศ โดยซุกซ่อนในตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งทางเรือไปจากประเทศไนจีเรีย
การค้างาช้างและตัวนิ่ม เป็นสิ่งผิดกฎหมายในเวียดนาม แต่การลักลอบค้าสัตว์ป่าในประเทศยังมีอย่างแพร่หลาย
เจ้าหน้าที่ศุลกากรในเมืองท่าไฮฟอง ตรวจพบงาช้างน้ำหนัก 330 กิโลกรัม และเกล็ดลิ่นน้ำหนัก 1.7 ตัน หลังจากทำการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัย 3 ตู้ บนเรือบรรทุกสินค้าที่ไปจากไนจีเรีย ประเทศริมฝั่งตะวันตกตอนกลางของทวีปแอฟริกา โดยงาช้างและเกล็ดลิ่นซุกซ่อนในลังไม้ วางไว้ด้านในสุดของตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งระบุในใบส่งสินค้าว่า บรรทุกไม้แปรรูปคุณภาพสูง
เวียดนามออกกฎหมายห้ามค้างาช้างในประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2535 แต่ยังมีการลักลอบซื้อขายในตลาดมืด และร้านค้าต่างๆ วางจำหน่ายงาช้างที่ทำเป็นเครื่องประดับ หรือเพื่อใช้เป็นส่วนผสมของยาแผนโบราณ โดยระบุเป็นงาช้างที่มีในครอบครองก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้
ส่วนตัวนิ่มนับเป็นสัตว์ที่มีการลักลอบค้ามากที่สุดในโลก จากการประเมินขององค์กรอนุรักษ์เชื่อว่า นิ่มกว่า 1 ล้านตัว ถูกจับออกจากป่าในเอเชียและแอฟริกา ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา โดยตลาดรับซื้อใหญ่สุดคือเวียดนาม และจีน ซึ่งใช้เนื้อบริโภคเป็นอาหาร และเกล็ดเป็นส่วนผสมของยาแผนโบราณ