“อนุชา-ไพบูลย์” ผงาดนั่งรองหัวหน้า พปชร. “อุตตม” แจงเสริมพลังของพรรคในทุกมิติ เพิ่มประสิทธิภาพงาน ไม่หวั่นสมาชิกทั่วประเทศลด แจงเปลี่ยนโลโก้เป็นวงกลม แสดงถึงความสามัคคี
เมื่อเวลา 12.20 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2562 ว่า ที่ประชุมมีความเห็นเรื่องการเปลี่ยนโลโก้พรรค ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางพรรคได้หารือกันว่า หากเรามีโลโก้ใหม่ที่เป็นวงกลม เพื่อแสดงถึงความสามัคคีและพลังของพรรคประชารัฐ ซึ่งทุกคนชอบใจและมีมติเห็นชอบร่วมกันส่วนโลโก้แบบเดิมที่เป็นเหลี่ยมนั้น ที่มีการระบุว่าเป็นเหลี่ยมแล้วไปทิ่มแทงกันนั้นคงไม่มี ส่วนเรื่องความเห็นต่างนั้นก็เป็นเรื่องของการเมือง แต่ในการประชุมวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีการตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพิ่มเติมซึ่งก็เรียบร้อยดี
เมื่อถามว่าโครงสร้างกก.บห.เป็นอย่างไรบ้าง นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมเห็นชอบตั้งกก.บห.เพิ่มเติมอีก 17 คน ซึ่งทำให้ปัจจุบันมีกก.บห.รวมทั้งหมด 34 คน โดยได้ตั้งนายอนุชา นาคาศัย และนายไพบูลย์ นิติตะวันเป็นรองหัวหน้าพรรค เนื่องจากภารกิจของพรรคมีมากขึ้น จึงสะท้อนจากจำนวนกก.บห.และงานที่เราต้องทำรับใช้พี่น้องประชาชน จึงมีเพิ่มขึ้นมาจึงต้องเพิ่มรองหัวหน้าพรรคเข้ามา ทั้งนี้กก.บห.ทั้ง 17 คน จะมีการมอบหมายงานว่าจะให้ดูแลด้านใด ซึ่งจะต้องยึดโยงในเรื่องของพื้นที่และงานด้านยุทธศาสตร์ การนำนโยบายของรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนกลางนำไปสื่อสารเพื่อการปฏิบัติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กก.บห.
เมื่อถามว่า การปรับกก.บห.ครั้งนี้ เป็นการเสริมพลังทางการเมืองใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เป็นการเสริมสร้างพลังของพรรคให้เต็มเปี่ยมยิ่งขึ้นในทุกมิติ
เมื่อถามว่าในที่ประชุมมีการพูดถึงบทบาทของเลขาธิการพรรคหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะปรับเปลี่ยนตัว นายอุตตม กล่าวว่า ไม่มี วันนี้ไม่มีการหารือในเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามว่า การเข้ามาของนายสุริยะและนายสมศักดิ์ มองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงถ้ามี คงไม่ใช่ 2 ท่าน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงจะเป็นเรื่องการประสานงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเรื่องการทำงานที่จะใช้ศักยภาพของคนที่มีในพรรคให้ได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อถามว่า การตั้งกก.บห.เพิ่มเติมจะเป็นการรวมที่ชัดเจนมากขึ้นหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ถูกมองว่าในพรรคแบ่งเป็นกลุ่มๆ นายอุตตม กล่าวว่า สิ่งที่สะท้อนของพรรคพลังประชารัฐคือพลังสามัคคี ที่มีความเห็นแตกต่างกันบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้ตนคิดว่า สิ่งสะท้อนชัดเจนคือ ถึงเวลาทำงานแล้ว ซึ่งเราก็มองทางดียวกันเราก็มาร่วมกัน ทั้งนี้จากรายชื่อกก.บห.จะเห็นว่ามีตัวแทนในเชิงพื้นที่ ซึ่งเป็นแกนนำของพรรคในภาคต่างๆ เราก็มาร่วมกัน เพราะฉะนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่มากขึ้น
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคมาตลอด แต่ในการประชุมวันนี้ไม่มีเรื่องดังกล่าว มองอย่างไร นายอุตตม กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เรื่องของข่าวมันมีได้ในการเมืองปกติ ความเห็นมีได้ แต่สุดท้ายในที่ประชุมวันนี้ ก็ไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามว่าได้มีการประเมินการทำงานที่ผ่านมาและต้องมีการปรับความเชื่อมโยงอย่างไรบ้าง นายอุตตม กล่าวว่า เป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่อง พรรคพลังประชารัฐเดินหน้ามาได้และประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งแรกและได้มารับใช้ประชาชน แต่แน่นอนว่างานไม่มีสิ้นสุด งานในพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของเรา แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องออกมาเป็นระบบ และส.ส.ของพรรคเองก็ต้องประเมินตัวเองตลอดรวมถึงผู้บริหารในเองก็เช่นกัน
เมื่อถามว่า จำนวนสมาชิกทั่วประเทศขณะนี้ลดลงเหลือ 30,000 กว่าคน จะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่าห่วง เพราะเราจะมีการเพิ่มจำนวนสมาชิก ซึ่งตนเชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหา