“อนุสรณ์”เตือนนายกฯระวัง “สุภรณ์” หักหลัง

2019-12-18 10:35:54

“อนุสรณ์”เตือนนายกฯระวัง “สุภรณ์” หักหลัง

Advertisement

“อนุสรณ์”เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ “ไม่ควรปล่อยบริวารอย่าง “สุภรณ์” ออกมาทำลายบรรยากาศอันดีของบ้านเมืองโจมตี “ยิ่งลักษณ์” ระบุเมื่อหักหลังทรยศนายเก่าได้ นายใหม่จะไว้วางใจได้หรือ

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยมีเนื้อหาดังนี้ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผมนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ได้เห็นจดหมายเปิดผนึกของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เขียนถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บังคับบัญชาของนายสุภรณ์ อย่างไม่เหมาะสม นึกถึงสำนวน จะเตะหมา ให้ดูหน้าเจ้าของ ว่าเจ้าของหมารู้สึกอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่ หากหมากัดกรงออกไประรานคนอื่นไปทั่ว อย่างขาดสติ เจ้าของหมา จะให้เศษอาหารเป็นรางวัลเพิ่ม หรือจะลงโทษให้หลาบจำ ตนไม่ได้กล่าวหาหรือเปรียบเทียบกับใคร พล.อ.ประยุทธ์ รู้สึกอย่างไร ที่บริวาร แสดงการเอาใจนายใหม่ โดยการเนรคุณทำร้ายนายเก่า ทำลายบรรยากาศปรองดองสมานฉันท์ ที่พล.อ.ประยุทธ์ ท่องมาตลอดว่า อยากให้คนไทยรักสามัคคีตลอดหลายปีที่ผ่านมา การเลี้ยงและเก็บคนที่มีชุดความคิดที่เป็นมลพิษทางการเมือง ไว้ใกล้ตัว ในช่วงที่คนไทยควรจะมีความสุขในเทศกาลปีใหม่ เป็นพฤติกรรมที่น่าสมเพชและน่ารังเกียจ

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ไม่มีใครสงสัยในตัวนายสุภรณ์ เพราะนายสุภรณ์ ยอมรับเองว่า เป็นคนเนรคุณจริง และเป็นเพียงพลทหาร ตัดหญ้า ถูบ้าน ล้างรถ เลี้ยงไก่ เอาใจนาย รับใช้ พล.อ.ประยุทธ์จริง ถึงขั้นลงทุนแต่งนิยายด้วยความเท็จ ไม่มีใครรับได้ พวกตนไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ นายสุภรณ์ ได้กลายเป็นโมฆะบุรุษไปแล้ว สิ่งที่นายสุภรณ์พูดออกมาเป็นการสำรากทางการเมือง จนคนรู้สึกสมเพช ไม่น่าเชื่อว่า คนที่เคยประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองว่ามีจุดยืนประชาธิปไตย ต่อหน้าคนนับแสนหลายเวที ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะถุยน้ำลายขึ้นฟ้ารดหน้าตัวเอง อย่างหน้าไม่อาย นี่ไม่ใช่การเก็บอุดมการณ์ใส่ลิ้นชัก แต่เป็นการจุดไฟเผาอุดมการณ์ทิ้งทั้งหมด นายสุภรณ์ อาจหลอกคนอื่น จนตัวเองเข้าใจไปเองด้วยว่า คนเสื้อแดงไม่มีแล้ว แท้จริงแล้วจิตวิญญาณของคนรักประชาธิปไตย ไม่ได้สูญหายไปไหน อย่างน้อยผลการเลือกตั้งที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยต่อต้านการสืบทอดอำนาจ มีคะแนนเสียงถึง 17 ล้านเสียง ในขณะที่พรรคสืบทอดอำนาจได้รับคะแนนเสียงเพียง 8 ล้านเสียง ถือเป็นสิ่งบ่งชี้ ยืนยันชัดว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางต่อต้านการสืบทอดอำนาจและปฏิเสธการเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์

นายอนุสรณ์ ระบุอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องถามนายสุภรณ์ ว่า สามารถสบตา สู้หน้า คนที่เคยเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของนายสุภรณ์ ได้จริงหรือ ถนนทุกสายเดินได้หมดหรือไม่ ความเดือดร้อนของมวลชนและคนการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย อันเกิดจากการกระทำที่ใช้ไม่ได้ของนายสุภรณ์ มีมากมาย อย่างน้อยช่วงที่ถูกควบคุมตัวตอนรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลายคนถูกนำตัวไปกักขัง แล้วเรียกว่าปรับทัศนคติ ถูกสอบอย่างหนักว่ารู้จักนายสุภรณ์ หรือรู้เห็นกับการตั้งกองกำลังสู้กับทหารของนายสุภรณ์หรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีใครรู้หรือเห็นด้วยนายสุภรณ์ ไปทำโดยพลการด้วยความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ถ้วนหน้า

“ความเจ็บปวดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากการใช้ ม.44 เหนือคำพิพากษา ไม่รอคำสั่งศาลปกครองให้ถึงที่สุด รีบสั่งกรมบังคับคดีกวาดทรัพย์สินขายทอดตลาดชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าว พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบไม่ได้ หรือไม่อยากตอบ ก็เป็นสิทธิ์ เพราะแม้แต่นายวิษณุ เครืองาม บิดาแห่งข้อยกเว้น ยังไม่สามารถตอบได้ แต่ไม่ควรปล่อยบริวาร ออกมาสำรากทางการเมือง ทำลายบรรยากาศอันดีของบ้านเมือง เพราะที่สุด จะตอกย้ำข้อกล่าวหาที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบิดาแห่งความย้อนแย้ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประโยชน์หรือสบายใจจริงๆหรือ ที่มีคนแบบนายสุภรณ์ เป็นบริวาร เพราะเมื่อคนประเภทนี้สามารถสร้างความอัปยศ หักหลังทรยศนายเก่าได้ นายใหม่จะไว้วางใจได้หรือ”นายอนุสรณ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วย รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกจากอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์) ถึงอดีตนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)" โดยมีเนื้อหาดังนี้ เรียน ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ผม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ "แรมโบ้อีสาน" ซึ่งอดีตเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ผมได้อ่านข้อความที่ท่านโพสต์ Facebok แล้ว ผมกลับมองว่า สิ่งที่ทำนพูดสวนทางกลับสิ่งที่พวกผมทราบข่าวผ่านทางโซเชียลว่า ไม่ได้เป็นจริงดังที่ท่านระบายความในใจมา เพราะเราเห็นท่านฉลองดื่มไวน์ ช็อปปิ้งกันอย่างมีความสุข ดูท่านที่ไม่ได้ทุกข์ใจ หรือเดือดร้อนตามที่ท่านโพสต์ แต่คนที่เมืองไทย พี่ๆ น้องๆ ที่เคยร่วมต่อสู้กันมา ส่วนหนึ่งอยู่ในคุก ส่วนหนึ่งกำลังจะเข้าคุก ครอบครัวต้องเดือดร้อนมาจากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ท่านและพวกพ้องท่านได้เข้าสู่ตำแหน่ง หลายชีวิต หลายครอบครัว ชะตากรรมของนักสู้ ต้องเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งกว่าท่าน และคนในครอบครัวท่านมากมาย บางครอบครัวของพวกเราต้องแตกสาแหรกขาด บางครอบครัวต้องสิ้นเนื้อประดาตัวเป็นหนี้สิน คนเหล่านี้สู้เพื่อใคร สู้เพราะรักใคร ทุ่มเทให้ใคร สุดท้ายสิ่งที่เขาได้รับคือความเจ็บปวด ส่วนท่านและครอบครัว ผมมั่นใจว่าท่านอยู่ดีมีสุขในต่างประเทศมากกว่าพี่น้องผมเสียอีก พวกผมเองต้องต่อสู้คดี ต้องจ่ายค่าทนาย ต้องหาเงินประกันตัว ต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่ต่างจากเพื่อนพ้องน้องพี่คนอื่นๆ ท่านนายกยิ่งลักษณ์ฯ ช่วยตอบหน่อยว่า พวกผมและเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคนสู้เพื่อตนเองหรือสู้เพื่อใคร ใครทำให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น ใครทำให้ระบบเผด็จการรัฐสภาพวกมากลากไป ใครคิดออก พ.ร.บ. นิรโทษสุดซอย ทั้งที่พวกผม นปช. ทั้ง คุณจตุพร พรหมพันธุ์ และคณะพวกเรา ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในบ้านเมือง พวกผมเคยเรียนท่านอดีตนายกฯ แล้ว ท่านก็ไม่ฟัง แต่ท่านฟังแค่พี่สาว คุณเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และคนข้างกายท่านให้ข้อมูลกับท่านในทางที่ผิด จนเกิดกระแสต่อต้านมากมาย ทำให้ท่านต้องตัดสินใจยุบสภา

ผมยังมีอะไรอีกมากมายที่ผมอยากจะเขียนถึงท่านด้วยความปรารถนาดี ผมไม่อยากเห็นอดีตนายกฯ เอาประเด็นเรื่องส่วนตัวมาพูด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่พวกท่านดำรงตำแหน่งในบ้านเมือง ท่านทำงานเพื่อใคร เพื่อคนในตระกูลหรือเพื่อประชาชนคนไทย สิ่งต่างๆ ที่ผมไม่อยากจะเอ่ย ที่ผมรับรู้มากมาย ผมไม่อยากจะบรรยายออกมาทั้งหมด ท่านอย่าไปโทษ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" "ท่านอย่าไปโทษ คสช.หรือมาตรา 44" เลย ยิ่งท่านโทษ ประชาชนจะมองว่าท่านจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ปัญหาที่เกิดขึ้น ท่านอดีตนายกยิ่งลักษณ์ๆ ลองไตร่ตรองและตั้งสติให้ดีว่า เกิดขึ้นจากปัจจัยอะไร เพราะอะไร ทหารจึงต้องเข้ามาทำการยึดอำนาจ ควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังลุกเป็นไฟ ใครทำให้เกิดม็อบ ทำให้เกิดความขัดแย้งในบ้านนี้เมืองนี้

ผมเรียนว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ผมเชื่อในเรื่องข้อเท็จจริงว่า ถ้าจิตใจเราบริสุทธิ์ ใครมาทำอะไรเราไม่ได้ ถ้าการกระทำจิตใจเราบริสุทธิ์ จริงใจ ไม่โกหกตัวเองและประชาชน ก่อนที่ท่านจะพูดอะไร เรื่องอะไร ตัดพ้อน้อยใจอะไร และเจ็บปวดหัวใจ น้อยใจในชะตากรรมชีวิตอย่างไร ท่านอย่าลืมว่า ยังมีคนที่ทุกข์ยากเจ็บปวดชีวิต และเดือดร้อนมากกว่าท่านอีกหลายคน อาทิเช่น ท่านอดีต รมต.บุญทรง เตริยาภิรมย์ ท่านอดีตรมช.ภูมิ สาระผล เพื่อนพ้องน้องพี่ นปช. คนเสื้อแดง และอีกหลายๆ คนที่ต้องรับชะตากรรมในคุก กำลังจะเดินเข้าคุก หรือหนีออกนอกประเทศ ดังนั้น สิ่งที่ผมต้องขอร้องท่านด้วยใจจริง ในฐานะผู้เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาท่าน บ้านนี้เมืองนี้ควรจะหยุดวาทกรรม หรือหยุดสร้างความแตกแยก หรือหยุดปลุกปั่นกันให้เกิดปัญหาวุ่นวายกันอีกต่อไป แต่ถ้ายังใช้วาทกรรมในการที่จะให้ประชาชนเลือกข้างและเกลียดชังกัน ไม่ได้มีผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองอะไรเลย มีแต่จะทำให้แผ่นดินนี้ มีแต่ความวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด ขอให้ทนเสียสละ หยุดเคลื่อนไหวเพื่อประเทศชาติ ประชาชนคนไทยจะได้มีความสุขเสียทีครับ ด้วยความเคารพและห่วงใยท่านเสมอครับ