ความรักที่มากล้น มักปะปนมากับอันตรายและหายนะ นำมาซึ่งความสยดสยองจนไม่มีใครคาดเดาได้ ... ย้อนอดีตคดีดังเรื่องราวฆาตกรรมสุดสะพรึง เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2015 (2558) หลังมีคนไปพบศพหญิงสาวรายหนึ่ง ถูกฆ่ายัดกระเป๋า ฝังอยู่ใต้พื้นดิน บนเชิงเขาแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวน จนสามารถระบุตัวตนผู้เสียชีวิต คือ นางสาว คิม ซัน-จุง วัย 25 ปี หรือ "ซันนี่ คิม" (Sunny Kim) ซึ่งมีอาชีพเป็นครูสอนอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ โดยก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจบการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และได้หายตัวไปจนคนในครอบครัวเกิดความวิตกกังวล
ซึ่งการพบศพของ ซันนี่ คิม สืบเนื่องมาจาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งว่า นายลี อดีตแฟนหนุ่มของซันนี่ ที่ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากเขาพยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ก่อนเขาเข้ามอบตัวและสารภาพเรื่องราวสุดสยองให้เจ้าหน้าที่ฟังทั้งหมด จนนำไปสู่การพบศพดังกล่าว
นายลี ระบุว่า เขาและซันนี่ เป็นอดีตคู่รักกัน แต่ช่วงหลังเริ่มมีปากเสียงบ่อยครั้ง จนนำมาสู่การเลิกรา ก่อนที่เขาจะบุกไปพบแฟนสาว และพลั้งมือฆ่าอดีตแฟนสาวด้วยการบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนนำร่างยัดใส่กระเป๋าเดินทาง ไปฝังบนเนินเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ไปไม่ไกลนัก ก่อนที่เขาพยายามที่จะฆ่าตัวตายดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นเหตุจากอารมณ์ชั่ววูบ เพราะสภาพศพของหญิงสาวมีบาดแผลหลายแห่งตามร่างกาย คล้ายถูกทำร้ายมาอย่างหนัก
ซึ่งหลังจากซันนี่ หายตัวไปหลายวัน ทางครอบครัวจึงเริ่มออกตามหา นายลี ได้ใช้มือถือส่งของเหยื่อส่งข้อความและติดต่อกับเพื่อนๆ จนสุดท้ายความแตกเขาจึงพยายามฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ ก่อนเข้ามอบตัวในภายหลัง
ด้านครอบครัวของซันนี่ คิม นำโดย นาย คิม ซัน เบ็ก น้องชายของซันนี่ ระบุว่า นายลีมักจะทะเลาะวิวาทกับพี่สาวของตนอยู่บ่อยครั้ง และจบลงด้วยการใช้กำลังกับซันนี่ ก่อนทิ้งท้ายว่า เขาไม่เชื่อว่านายลี จะฆ่าตัวตายจริงๆ แต่เป็นแผนการเพื่อจะทำให้นายลีได้รับการลดโทษหนัก หลังเขาแสดงความรู้สึกผิด และพยายามฆ่าตัวตาย จนอาจได้รับโทษน้อยกว่าที่จะเป็นได้ ซึ่งขณะนี้คดีดังกล่าวกำลังอยู่ขั้นตอนพิจาณาคดีในชั้นศาล
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวของคู่รัก ส่วนใหญ่มักจบลงด้วยเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ถ้าหากคุณเคยรักใคร จงจำไว้เสมอว่า ต้องรักอย่างมีสติ ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรให้ต้องหมางใจกัน จงบอกกับตัวเองไว้ว่าจะไม่คิดตัดสินปัญหาด้วยความรุนแรงต่อคนที่คุณรักเด็ดขาด แล้วเรื่องราวโศกนาฏกรรมเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
เพื่อนๆ ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของ ซันนี่ คิม