ศาลปินส์ยกฟ้องคดียึดทรัพย์มาร์กอส

ศาลต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันฟิลิปปินส์ ซานดิกันบายัน ในกรุงมะนิลา มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ร้องขอให้ยืดทรัพย์สิน รวมมูลค่า 200,000 ล้านเปโซ หรือ 118,958 ล้านบาท จากครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส กลับคืนเป็นของรัฐ โดยให้เหตุผลว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ที่จะสั่งให้ครอบครัวมาร์กอสคืนเงิน ที่โจทก์กล่าวหาว่าได้ไปโดยมิชอบ

องค์คณะตุลาการศาลซานดิกันบายันมีคำวินิจฉัยว่า "เอกสารสำเนา" ที่ฝ่ายโจทก์นำเสนอ ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานพยานในคดีได้ ดังนั้นจึงให้จำหน่ายคดี

คดีนี้ยืดเยื้อมานาน 32 ปี โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์พยายามจะยึดคืนทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 301,652 ล้านบาท ที่กล่าวหาว่าอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส และครอบครัว ยักยอกจากรัฐ ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่มาร์กอสครองอำนาจ จนถึงปลายเดือน ก.พ. 2529

แต่ในการฟ้องร้องคดีนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ฟ้องศาลเรียกทรัพย์สินคืนจากครอบครัวมาร์กอส รวมมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านเปโซ ซึ่งอยู่ในรูปแบบของมูลค่าหุ้น เงินฝากธนาคารทั้งในและนอกประเทศ อสังหาริมทรัพย์ทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งอัญมณี และงานศิลปะล้ำค่า

ในการอ่านคำพิพากษา เมื่อวันจันทร์ ผู้พิพากษาศาลซานดิกันบายัน ยอมรับว่า มีการก่อความรุนแรงในช่วงกฎอัยการศึกภายใต้รัฐบาลมาร์กอส และมีการ "ปล้นสะดม" ทรัพยากรของประเทศ แต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปได้ว่า จำเลยได้ทรัพย์สินเหล่านี้ไปโดยมิชอบ ดังนั้นศาลจึงไม่สามารถสั่งให้ครอบครัวจำเลย คืนทรัพย์สินกลับสู่คลังของรัฐได้.