ประชาคมโลกกล่าวประณาม สหรัฐปั่นป่วนสถานการณ์ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน โดยเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของปักกิ่งอย่างน่าเกลียด และไม่เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใด
สภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง 2019 ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 พ.ย. แม้จะมีเสียงเตือนจากรัฐบาลแผ่นดินใหญ่
รัฐบาลจีนตัดสินใจระงับการพิจารณา คำร้องขอจากสหรัฐ ที่ต้องการนำเรือและเครื่องบินกองทัพแวะเยือนฮ่องกง เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. และยังจะใช้มาตรการคว่ำบาตร ต่อหลายกลุ่มเอ็นจีโอของสหรัฐ ที่แสดงท่าทีสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกงอย่างชัดเจน
นายเดวิด พี. โกลด์แมน นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน กล่าวว่า เนื่องจากฮ่องกงเป็นดินแดนอาณาเขตส่วนหนึ่งของจีน จึงเป็นธรรมชาติและสิทธิอันชอบธรรม ที่จีนต้องปกป้องอธิปไตยของตน โกลด์แมนกล่าวอีกว่า มาตรการตอบโต้ของจีนยังถือว่าน้อยไป การปั่นป่วนสถานการณ์ของสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้า ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใดทั้งสิ้น
ส่วนนายอันเดรีย เซจนา รองประธานกลุ่ม “พันธมิตรประชาธิปไตยฝ่ายซ้าย” ในโปแลนด์ กล่าวว่า ความปั่นป่วนที่กำลังเกิดขึ้นในฮ่องกง เป็นผลจากการแทรกแซงของสหรัฐ สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ ต้องหยุดความปั่นป่วนนี้ และหยุดความรุนแรง ซึ่งในประวัติศาสตร์ไม่เคยเป็นเครื่องมือที่ดี ในการช่วยเหลือหรือปกป้องสิทธิของประชาชน
ทางด้านนายกิลเยอร์โม ปูยาน่า นักกฎหมายจากโคลอมเบีย กล่าวว่า หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ของจีน คือส่วนสำคัญของการพัฒนาฮ่องกง และแน่นอนว่ากิจการฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีนอย่างไม่ต้องสงสัย สหรัฐไม่มีสิทธิใด ๆ ในการแทรกแซงกิจการฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มสื่อของจีน (China Media Group) หรือซีเอ็มจี ได้เผยแพร่บทความชิ้นหนึ่งเมื่อวันอังคารว่า จีนยังมุ่งมั่นสนับสนุนฮ่องกงและนำกลับคืนเส้นทางการพัฒนาเหมือนเดิม โดยในเนื้อหาบางตอนระบุว่า ความพยายามของสหรัฐในการแทรกแซงกิจการภายในของจีนด้วยการออกกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ เพราะจีนยังคงมุ่งมั่นตั้งใจสนับสนุนฮ่องกงและนำกลับสู่เส้นทางการพัฒนา
จีนแผ่นดินใหญ่ยังคงเคียงข้างฮ่องกงทุกครั้งที่เขตปกครองพิเศษแห่งนี้เผชิญหน้ากับความท้าทาย โดยในปี 2540 รัฐบาลกลางให้คำมั่นปกป้องฮ่องกงจากวิกฤตการเงินเอเชียอย่างเต็มที่ จากนั้นในปี 2546 ระหว่างการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจรุนแรง หรือซาร์ส จีนก็จัดส่งยารักษาโรคฟรี และเริ่มให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวฮ่องกง เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมา ในช่วงหลายปีมานี้ จีนทุ่มเทหลายอย่างเพื่อพัฒนาฮ่องกง รวมทั้งแผนการเกรตเตอร์ เบย์ เอเรีย อัดฉีดเงินทุนครั้งใหม่เข้าสู่เศรษฐกิจฮ่องกง
และสถิติเมื่อปีที่แล้ว 1 ใน 4 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เข้าสู่ฮ่องกงนั้น ก็มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยครึ่งหนึ่งของการขนส่งในฮ่องกงมาจากจีนและฮ่องกงเข้าสู่จีน นอกจากนี้ บริษัทของจีนคิดเป็นถึงร้อยละ 70 ของมูลค่าในตลาดหุ้นฮ่องกง แต่ความสงบสุขและเสถียรภาพ ถูกทำลายลงในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา จากการประท้วงรุนแรง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ เศรษฐกิจของฮ่องกงเสื่อมทรุดอย่างหนักจากการประท้วง จีนไม่อาจนั่งนิ่งโดยไม่ได้ทำอะไร
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศของจีน ประกาศมาตรการตอบโต้หลายอย่างต่อกฎหมายฮ่องกงของสหรัฐ รวมทั้งการระงับการพิจารณา คำร้องขอจากสหรัฐ ที่ต้องการนำเรือและเครื่องบินกองทัพแวะเยือนฮ่องกงดังกล่าว อีกทั้งยังจะใช้มาตรการคว่ำบาตร ต่อหลายกลุ่มเอ็นจีโอของสหรัฐ ที่แสดงท่าทีสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกงอย่างชัดเจน