เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย เข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่ผู้ประท้วงหลายพันคนในชุดสีดำ ยังหลั่งไหลออกสู่ถนนหลายสาย หนึ่งสัปดาห์หลังผู้สมัครฝ่ายประชาธิปไตยชนะเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นอย่างถล่มทลายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยการชุมนุมจุดใหญ่อยู่ในย่าน “จิมซาจุ่ย” ย่านช็อปปิ้งและแหล่งท่องราตรีที่เกาลูน เป็นหนึ่งใน 3 สถานที่นัดหมายชุมนุมในวันอาทิตย์ ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงต้องการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น
นักศึกษาวัย 20 ปี ซึ่งบอกแค่ชื่อเล่นว่า เฉิน กล่าวว่า รัฐบาลยังคงไม่ฟังเสียงของพวกเรา เพราะฉะนั้นการประท้วงจะยังคงเดินหน้าต่อไป จะไม่หยุดประท้วง มันเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ประชาชนยังคงโกรธมากและต้องการการเปลี่ยนแปลง
การชุมนุมเริ่มต้นขึ้นอย่างสงบ เมื่อประชาชนเดินทางโดยเรือข้ามฟากและรถไฟมายังสถานที่นัดหมายชุมนุมแห่งนี้ มีผู้ประท้วงบางส่วนเดินขบวนเข้าหาตำรวจที่ตั้งแถวอยู่ ซึ่งผู้ประท้วงก็จะได้รับคำเตือนให้ถอยกลับออกไป และเตือนว่าผู้ประท้วงกำลังออกนอกเส้นทางที่ได้รับอนุญาตให้ชุมนุม แต่ก็มีการฉีดสเปรย์พริกไทยและยิงแก๊สน้ำตาในหลายพื้นที่
นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ไม่ได้เสนออะไรเป็นพิเศษหลังการเลือกตั้ง ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงกล่าวว่า พวกเขารู้สึกถูกบังคับให้ต้องกลับออกสู่ถนน

ขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคน พากันร้องเพลงชาติสหรัฐระหว่างการชุมนุมนอกสถานกงสุลสหรัฐในฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ พร้อมขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่เห็นชอบร่างกฎหมายของสหรัฐในการสนับสนุนการประท้วง โดยทรัมป์ ลงนามในกฎหมาย 2 ฉบับ ซึ่งจะห้ามการส่งออกกระสุนต่อต้านการจลาจลไปยังจีน และมีความเป็นไปได้ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตร ซึ่งก็ส่งผลให้กระทรวงต่างประเทศของจีน ออกมาประณามอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ ยังมีชาวฮ่องกงมากกว่า 200 คน มารวมตัวกันครั้งใหม่ที่คล็อก ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งในย่านจิมซาจุ่ยในวันอาทิตย์เพื่อร้องเพลงชาติ แสดงความรักมาตุภูมิ และยืนยันหนักแน่นในการต่อต้านความรุนแรง โดยมีการโบกธงชาติจีนและฮ่องกง ผู้เข้าร่วมการชุมนุมมีทุกเพศทุกวัย และร้องเพลงชาติจีนและร้องเพลงประสานเสียง “แผ่นดินแห่งบรรพชน” (Ode to the Motherland)
หลายคนกล่าวว่า พวกเขาได้แสดงความรักที่มีต่อประเทศจีนและฮ่องกง และต่อต้านการใช้ความรุนแรงที่ยืดเยื้อยาวนาน ซึ่งเป็นเหตุให้ฮ่องกงสูญเสียความรุ่งโรจน์ ในฐานะ “ไข่มุกแห่งบูรพา”
ผู้เข้าร่วมคนหนึ่งกล่าวว่า เขาไม่มีอะไร นอกจากความโกรธ ความโกรธอันขมขื่น และรู้สึกไม่มีความสุขและไม่มีประโยชน์ แต่พวกเราต้องต่อสู้กับความรุนแรง จนกว่าจะยุติ เพราะฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ พวกเราทุกคนอาศัยอยู่ในฮ่องกง และเราเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งต่อความจริงว่า ฮ่องกงเป็นของจีน