“ปารีณา”ลากเก้าอี้นั่งข้าง “เสรีพิศุทธ์” (คลิป)

2019-11-27 11:40:15

“ปารีณา”ลากเก้าอี้นั่งข้าง “เสรีพิศุทธ์” (คลิป)

Advertisement

กมธ.ป.ป.ช. 7 ต่อ 2 เสียง ยกเรื่องปลดประธาน กมธ. "สิระ" โวย "เสรีพิศุทธ์" เอา "วัฒนา – พล.ต.อ. วิโรจน์" นั่งข้างหัวโต๊ะ เจอ "ปารีณา" ลากเก้าอี้นั่งข้างประธานบ้าง

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ. ป.ป.ช.)ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน ซึ่งการประชุมวันนี้มีนายวัฒนา เมืองสุข และพล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์ นั่งอยู่ข้าง ๆ หัวโต๊ะใกล้กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กมธ.ป.ป.ช. จนทำให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ทักท้วงว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการจัดที่นั่งละเมิดศักดิ์ศรีของ ส.ส.คนอื่นๆ ที่เป็น กมธ. และละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะที่ปรึกษาทั้งสองคนไม่ได้เป็น ส.ส.

โดย กมธ.ในสัดส่วนฝ่ายค้าน ได้ชี้แจงว่าไม่มีข้อบังคับกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรตำแหน่งที่นั่งในห้องกรรมาธิการ และควรให้เกียรติที่ปรึกษาประธาน กมธ. ที่เป็นระดับอดีตรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง มาทำหน้าที่ที่ปรึกษาประธานกมธ. จึงควรนั่งใกล้กับประธาน กมธ. โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ชี้แจงว่า บุคคลทั้ง 2 คน ไม่ได้เป็นบุคคลที่ตนเองเสนอ แต่เป็นบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอมา จนทำให้ น.ส.ปารีณา กล่าวต่อที่ประชุมว่าหากเอา ส.ส.สอบตกนั่งตรงไหนก็ได้ ตนเองก็จะนั่งตามใจบ้าง แล้วลากเก้าอี้ไปนั่งข้าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แซวว่า ได้นั่งข้างคนสวย อย่าเผลอกอดผมนะ

จากนั้นก่อนจะเข้าเรื่องหารือ ยังเกิดความวุ่นวายเมื่อ น.ส.ปารีณาพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มือถือ จนทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เหลือบไปมองและทักท้วงสั่งห้ามใช้ข้อมูลสื่อสาร ทำให้นายสิระทักท้วงขึ้นมาว่า น.ส.ปารีณาแค่ใช้โทรศัพท์เท่านั้น ไม่ได้ก่อความวุ่นวายกวนประสาท และกล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่ได้มองโทรศัพท์ น.ส.ปารีณา แต่มองอย่างอื่นของ น.ส.ปารีณา ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า น.ส.ปารีณาไม่มีอะไรน่ามอง และใช้อำนาจสั่งห้าม น.ส.ปวีณาใช้เครื่องมือสื่อสารในที่ประชุม

จากนั้นที่ประชุมเข้าสู่วาระที่นายสิระ จะเสนอให้ที่ประชุมปลดประธาน กมธ. ว่ามีอำนาจตามข้อบังคับสามารถทำได้หรือไม่ โดยนายนายธีรัจชัย พันธุมาศ ยืนยันตามข้อบังคับข้อที่ 93 ว่าตำแหน่ง กมธ.เป็นไปตามอัตราส่วนของ ส.ส. แต่ละพรรคการเมือง แล้วจึงให้คณะกรรมาธิการเห็นชอบ จึงมองว่าคณะกรรมาธิการไม่สามารถปลดประธาน กมธ.ออกจากตำแหน่งได้ เว้นแต่จะได้รับการยินยอมจากประธาน กมธ. หรืออัตราส่วนของ ส.ส.มีความเปลี่ยนแปลงไป ส่วนนายสิระ ชี้แจงว่า ตำแหน่งประธาน กมธ.ชุดนี้เป็นโควตาของฝ่ายค้าน แต่ไม่เกี่ยวกับการกำหนดตัวบุคคล และมติที่แต่งตั้งประธาน กมธ.ก็เป็นมติจาก กมธ.ทั้ง 15 คน ตำแหน่งประธาน กมธ.จึงไม่ใช่ตำแหน่งส่วนตัว คณะกรรมาธิการสามารถปลดได้

ขณะที่ กมธ.สัดส่วนรัฐบาลคนอื่นๆ อาทิ นายรังสิกร ทิมาตฤกะ นายสุฑา ประทีป ณ ถลาง เสนอให้นำเรื่องเข้าหากับประธานสภาผู้แทนราษฎรในที่ประชุมใหญ่ จนท้ายที่สุดที่ประชุมมีมติฝ่ายค้าน 7 เสียง เห็นว่าคณะกรรมาธิการไม่มีอำนาจปลดประธาน กมธ. มีฝ่ายรัฐบาล 2 เสียง ประกอบด้วย นายสิระ และ น.ส.ปารีณา ที่เห็นว่าคณะกรรมาธิการมีอำนาจปลดประธาน กมธ. ส่วนกรรมาธิการที่เหลืองดออกเสียง จึงทำให้ที่ประชุมยกเรื่องการ ปลดประธาน กมธ.ออกจากการพิจารณา