ฟิลิปปินส์กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา ของกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ซีเกมส์ 2019” ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2562 โดยหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้น และกำลังลามกลายเป็นประเด็นทางการเมือง และถกเถียงกันในวงกว้าง ในแดนตากาล็อคขณะนี้คือ หอคอยกระถางคบเพลิง ที่จะใช้จุดไฟสัญลักษณ์ตลอดการแข่งขัน สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากใช้งบเฉพาะตรงนี้ 50 ล้านเปโซ หรือประมาณ 29.7 ล้านบาท แพงและเว่อร์เกินไป รัฐบาลควรนำเงินไปช่วยเด็กหรือคนยากจนในประเทศ จะได้ประโยชน์มากกว่า
หอคบเพลิงคอนกรีต ขนาดความสูง 50 เมตร ถูกสร้างไว้ที่ด้านหน้าสนามกีฬากลาง ในเมืองคลาร์ก ทางเหนือของกรุงมะนิลา นายแฟรงคลิน ดริยอง ส.ว.พรรคเสรีนิยม ฝ่ายค้าน และผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เงินจำนวน 1 ล้านเปโซ สามารถสร้างห้องเรียนในเด็กยากจนได้ 50 ห้อง แต่รัฐบาลทุ่มเงิน 50 ล้านเปโซ เพียงเพื่อสร้างกระถางคบเพลิงกีฬาแห่งเดียว
ส่วนนายโจอี ซอลเซดา ส.ส.จากจังหวัดอัลเบย์ พันธมิตรของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต กล่าวว่า แม้จะดูสมราคา แต่หอคอยสร้างหรูเกินความจำเป็น และทำให้ถูกเปรียบเทียบกับ “อีเมลดิฟิก”
คำว่า อีเมลดิฟิก (Imeldific) ชาวฟิลิปปินส์ใช้เรียกความหรูหราฟุ่มเฟือย จากเงินที่ได้มาจากการทุจริต ตามชื่อของนางอีเมลดา มาร์กอส อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1
หลังเกิดกระแสโจมตีหนักขึ้นเรื่อย ๆ ดูเตอร์เตได้ออกโรงให้สัมภาษณ์ว่า หอคอยคบเพลิงที่เห็น เป็นผลผลิตจากจินตนาการของผู้ออกแบบ ซึ่งไม่สามารถประเมินราคาได้ พร้อมกับยืนยันยันว่าการก่อสร้างแม้ราคาจะสูง แต่ก็ไม่มีการทุจริต เช่นเดียวกับนายอลัน ปีเตอร์ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันซีเกมส์ 2019 ซึ่งกล่าวว่า นี่เป็นงานศิลปะ ไม่ใช่แค่กระถางคบเพลิงแบบธรรมดาทั่วไป ดังนั้นจึงถือว่าสมราคาแล้ว.