คนร้ายขับรถตู้พุ่งชนผู้คนในย่านท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 ราย ตำรวจชี้ก่อการร้าย ด้านกลุ่มไอเอสออกมาอ้างความรับผิดชอบ
เกิดเหตุคนร้ายขับรถตู้วิ่งมาด้วยความเร็ว พุ่งชนฝูงชนในย่านถนนลาส รัมบลาส (Las Ramblas) แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีผู้คนพลุกพล่านในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ศพและบาดเจ็บมากกว่า 100 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า เหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้าย มีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้อง 2 คน ในเวลาต่อมา ผู้ต้องสงสัย 2 คน ถูกจับกุมตัวได้ในข้อหาเกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าว ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า คนขับรถตู้จงใจพุ่งชนประชาชน
สื่อสเปน รายงานว่า คนขับรถ ซึ่งเป็นรถเช่า เฟียตสีขาว วิ่งหลบหนีไป แต่ตำรวจปฏิเสธรายงานก่อนหน้านี้มีผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้าย 2 คน เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบาร์แห่งหนึ่งในใจกลางเมืองบาร์เซโลนา ตำรวจได้ปิดล้อมพื้นที่และตรวจสอบรถตู้คันอื่นๆ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า อาจถูกใช้เพื่อหลบหนี
ขณะเดียวกัน ตำรวจก็ได้เผยแพร่ภาพของชายคนหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า ดริสส์ ออบาคีร์ ที่ถูกกล่าวหาว่าเช่ารถตู้คันก่อเหตุ เขามีอายุประมาณ 20 ปี เกิดในโมร็อกโก
ล่าสุด กลุ่มนักรบรัฐอิสลาม หรือไอเอส ออกมาอ้างความรับผิดชอบอยู่เบื้องหลังการโจมตีการโจมตีครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งย่านลาส รัมบลาส ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว ก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุการณ์คนร้ายขับรถชนฝูงชนในการโจมตีหลายครั้งทั่วยุโรปตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีที่แล้ว
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตประณามการกระทำดังกล่าวจากกลุ่มก่อการร้าย และกล่าวว่าเราต้องร่วมมือกันเพื่อความเข้มแข็ง และกล่าวทิ้งท้ายว่าเรารักคุณ
เทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า สหราชอาณาจักรยืนหยัดต่อสู้กับสเปนให้หลุดพ้นจากความหวาดกลัว
ขณะที่สถานทูตไทยในสเปน ระบุว่า จากการตรวจสอบกับชุมชนไทยในนครบาร์เซโลนา เบื้องต้นยังไม่ปรากฏว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บ