“อนุดิษฐ์”ซัดผลงานแก้ ศก.นายกฯดิ่งเหว

2019-11-22 11:55:05

“อนุดิษฐ์”ซัดผลงานแก้ ศก.นายกฯดิ่งเหว

Advertisement

“น.อ.อนุดิษฐ์” ระบุสัญญาณเศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 เต็มไปด้วยความเสี่ยง ส่งออกหด นักท่องเที่ยวลด ซัดผลงานแก้เศรษฐกิจนายกฯดิ่งเหว กำลังนำพาประเทศไปสู่ความเสียหายไม่ต่างจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ลั่นไม่ยอมให้บริหารประเทศแบบนี้ต่อไปอีก ปีนี้เผาหลอกยังไหม้เกรียมขนาดนี้ รอถึงปีหน้าคงกลายเป็นขี้เถ้ากันหมดทั้งประเทศ

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ เดือน ต.ค.ที่ผ่านมาถือเป็นเดือนแรกของไตรมาสที่ 4 ซึ่งโดยปกติถือเป็นช่วงเวลาไฮซีซั่นของการบริโภคและการจับจ่ายของประชาชนในประเทศ แต่เชื่อไหมครับปีนี้ ปี พ.ศ. 2562 ที่ประเทศไทยมีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา AKA บิ๊กตู่ ลุงตู่ ท่านผู้นำ ท่านนายก และ... (เติมเอาเอง) เรากลับพบว่าสัญญาณเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ยังเต็มไปด้วยความเสี่ยง จนกูรูเศรษฐกิจหลายสำนักต้องปรับลดคาดการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจสำคัญครั้งแล้วครั้งเล่า GDP และตัวเลขการส่งออก ที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันอย่างหรูในช่วงต้น ปรากฏว่าน่าจะติดลบอย่างน้อยอีก 1-2% อย่างแน่นอน แถมตัวเลขนี้ยังไม่รวมปัจจัยใหม่อย่างการถูกตัด GSP ที่จะกระทบกับการส่งออกเพิ่มเติมอีกซะด้วยซ้ำร้ายเรายังต้องเจอกับปัญหาเงินบาทแข็งค่าเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบกับการส่งออก และการท่องเที่ยวโดยตรง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางมาเที่ยวไทยในช่วงไฮซีซั่นที่บ้านเราอากาศดี ไม่ร้อนจัด ปรากฏว่าปีนี้ ยอดจองโรงแรมลดฮวบ

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างรัสเซีย ที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเหลือแค่ 970,000 คน ส่วนนักท่องเที่ยวจากยุโรปชาติอื่นๆก็ลดลงด้วย ทำให้รายได้ลดลงเหลือแค่ 67,000 ล้านบาท ผู้ประกอบการและนักธุรกิจส่วนใหญ่ที่ผมรู้จักบ่นว่ารู้สึกสิ้นหวังที่พล.อ.ประยุทธ์แย่งงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯที่เคยกำกับดูแลภาพรวมเศรษฐกิจไปทำแต่ผลงานกลับดิ่งเหว ซ้ำร้ายนายสมคิดยังออกมายอมรับว่าเศรษฐกิจในปี 2020 มีทั้งความเสี่ยงและโอกาส บอกตามตรงครับ พวกผมทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลโดยตรง วันนี้ยังมองไม่เห็นโอกาสอะไรเลย เพราะมองไปทางใดเศรษฐกิจล้วนเต็มไปด้วยความเสี่ยงขณะนี้เราอยู่ในไตรมาส 4 มาเดือนเศษแล้ว แต่ยังไม่เห็นสัญญาณเศรษฐกิจดีขึ้น ดูได้จากการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเหลือ 1.25% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นอัตราดอกเบี้ยเท่ากับช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง สะท้อนภาพชัดให้กับการทำหน้าที่ของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างดีว่า ท่านทำให้ประเทศถอยหลัง หรืออาจกำลังทำให้ประเทศเสียหายเทียบเท่ากับวิกฤตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของเอเชียเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาก็เป็นไปได้

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ากลัวคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ให้เหตุผลเรื่องการลดดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้เนื่องจาก การส่งออกสินค้าหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ ,ท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง ,การจับจ่าย การลงทุนเอกชน มีแนวโน้มชะลอลงตามรายได้ของครัวเรือนและการจ้างงานที่ปรับลดลงเร็ว นอกจากนั้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนตุลาคมยังลดลงต่ำสุดในรอบ 65 เดือน หรือ 5 ปี ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ ยึดอำนาจในฐานะหัวหน้า คสช. การขาดความเชื่อมั่นของประชาชนที่เห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวอย่างแน่นอน จะทำให้ทุกคนชะลอการใช้จ่ายเงินจนถึงสิ้นปี สิ่งที่เกิดขึ้น ตอกย้ำความล้มเหลวในการทำหน้าที่ของพลเอกประยุทธ์ กูรูทางเศรษฐกิจทุกสำนักพยายามส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลมาแล้วหลายครั้งว่า การที่รัฐบาลถนัดแต่ถลุงงบประมาณเพื่อมาอัดฉีดประชาชนในระยะสั้น แจกเงินเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นช่วงที่คนจะต้องจับจ่ายอยู่แล้ว เป็นความคิดที่ไม่ฉลาดอย่างยิ่ง

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่การใช้งบประมาณผ่านมาตรการภาษี ผ่านโครงการช้อปช่วยชาติในปลายปี 2561 ,บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, ช้อปช่วยชาติ ทั้ง 2 เฟส และยังจะเริ่มเฟส 3 ที่ใช้งบประมาณซึ่งมาจากภาษีประชาชนทั้งประเทศ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท งบประมาณก้อนนี้ถูกตั้งคำถามว่า ทำเพื่ออุ้มคนบางกลุ่มใช่หรือไม่! และจริงหรือเปล่าที่ประชาชนซึ่งใช้จ่ายในโครงการเหล่านี้ถูกใช้เป็นแค่เครื่องมือผันเงินให้กับเจ้าสัวเท่านั้น ซ้ำร้ายยังเมินเฉยต่อปัญหาโรงงานปิดกิจการจนทำให้แรงงานตกงานไร้งานไร้เงิน หากเราดูช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ต.ค.62) มีการแจ้งเลิกประกอบกิจการโรงงาน และจำหน่ายทะเบียนโรงงาน 1,989 แห่ง ทำให้คนตกงาน 49,157 คน แปลว่า 10 เดือนปีนี้แซงปี 61 ทั้งปีไปเป็นที่เรียบร้อย(ปี 2561 ปิดโรงงาน 1,603 แห่ง คนตกงาน 40,305 คน) ผมจะไม่กล่าวหาท่านผู้นำว่าบริหารงานบกพร่อง ผิดพลาด และไร้ประสิทธิภาพ แต่การทำงานของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่าท่านกำลังนำพาประเทศไปสู่ความเสียหายที่ไม่ต่างจากวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 เป็นเครื่องตอกย้ำว่าท่านไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนใช่หรือไม่ ล่วงเลยมาถึงวันนี้โปรดอย่ามาถามอีกว่ารัฐบาลประยุทธ์ 2 พึ่งบริหารประเทศมาไม่กี่เดือนทำไมฝ่ายค้านต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เพียงแค่ไม่กี่เดือน ตัวเลขทางเศรษฐกิจยังดิ่งเหวได้ขนาดนี้ พวกผมคงไม่ยอมอยู่เฉยๆให้ท่านบริหารประเทศแบบนี้ต่อไปอีก ปีนี้เผาหลอกยังไหม้เกรียมขนาดนี้ รอถึงปีหน้าคงกลายเป็น “ขี้เถ้า” กันหมดทั้งประเทศแหงๆ

ขอบคุณเฟซบุ๊ก น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ