"ไพบูลย์" ลั่นนั่ง กมธ.ป.ป.ช. ไม่ได้มุ่งปลด "เสรีพิศุทธ์"

2019-11-22 11:30:49

"ไพบูลย์" ลั่นนั่ง กมธ.ป.ป.ช. ไม่ได้มุ่งปลด "เสรีพิศุทธ์"

Advertisement

"ไพบูลย์" ยันเข้าไปทำหน้าที่ กมธ.ป.ป.ช. ไม่ได้เพิ่มความขัดแย้ง ไม่ได้มุ่งปลด "เสรีพิศุทธ์" ยืนยันทำหน้าที่ตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพรรคพลังประชารัฐว่าพรรคมีมติให้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) แทนนายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ยืนยันว่าการเข้าไปทำหน้าที่นี้ ไม่ได้เข้าไปเพื่อเพิ่มความขัดแย้ง แต่ทางพรรคคงเห็นว่าเคยมีประสบการณ์เป็นประธานกรรมาธิการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของวุฒิสภามาหลายปี จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการช่วยเหลืองานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. และสัดส่วน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในคณะกรรมาธิการชุดนี้มีเพียง 3 คน จึงปรับให้เหมือนกับคณะกรรมาธิการชุดอื่นๆ ที่มี 4 -5 คน ยืนยันว่าการเข้าทำหน้าที่แทนนายดล ไม่ได้เบียดเบียนโควตาของพรรคชาติพัฒนา เป็นเพียงการสับเปลี่ยนเพื่อให้นายดลไปอยู่คณะกรรมาธิการที่เหมาะสม เพราะตนเองมีประสบการณ์ด้านนี้มากกว่า ซึ่งน่าจะมีการแจ้งให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรทราบภายในวันนี้

ส่วนกระแสข่าวว่าเป็นการมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อคานอำนาจในคณะกรรมาธิการนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นยุทธศาสตร์ของพรรคที่มอบหมายมาให้ทำงาน ยืนยันว่าการเข้าทำหน้าที่น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า โดยเฉพาะการให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งความขัดแย้งในคณะกรรมาธิการหลายเรื่องอาจเกิดจากความไม่เข้าใจกฎหมาย ดังนั้นการเข้าไปทำหน้าที่จะทำให้มีความชัดเจนขึ้น ให้ข้อมูลด้านกฎหมายได้ เพื่อทำให้การทำงานเป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับป ระเพณีปฏิบัติ และนำไปสู่ความเรียบร้อย

ส่วนข้อสังเกตว่าจะเข้าไปเพิ่มเสียงของกรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล เพื่อปลดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการในสัปดาห์หน้านั้น นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สมาชิกจะเสนอในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ส่วนตนเองไม่ได้จะเข้าไปทำหน้าที่เพื่อปลดประธานคณะกรรมาธิการ แต่จะทำงานตามกฎหมายและความถูกต้อง และให้ความเห็นถึงการทำหน้าที่ของกรรมาธิการในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนายสิระ เจนจาคะ และน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ โดยมองว่า ทั้งสองคนปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ตามเอกสิทธิ์ และเป็นไปในแนวทางที่จำเป็นต้องทำ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า บทบาทการทำงานในคณะกรรมาธิการกับเรื่องส่วนตัวต้องแยกกัน ซึ่งประธานคณะกรรมาธิการต้องทำตามหน้าที่ ทำเกินหรือขาดไม่ได้ หากตนเองก็ได้เข้าไปทำงาน เชื่อว่าคงจะมีการพูดคุยถึงกรอบการทำงานของคณะกรรมาธิการ แม้จะเคยมีกรณีฟ้องร้องกับตนเองมาก่อน แต่คงไม่มีปัญหา เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็มีวุฒิภาวะ แยกแยะได้ว่าตนเองเข้ามาทำงาน ไม่ได้เข้าเพื่อไปมีปัญหา

สำหรับกรณีออกคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการโดยไม่มีมติที่ประชุม นายไพบูลย์กล่าวว่า ต้องรอเข้าไปทำหน้าที่ แต่คิดว่าเรื่องนี้ควรจะพักเอาไว้ และหยิบประเด็นความเดือดร้อนของประชาชนมาพิจารณาก่อน แต่ก็วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับบทบาทของนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ ว่าการให้ความเห็นบางเรื่องก็อาจเกินเลยไปบ้าง