กมธ.ติง "ชิม ช้อป ใช้" ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว

2019-11-21 15:10:49

กมธ.ติง "ชิม ช้อป ใช้" ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว

Advertisement

กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจติง "ชิม ช้อป ใช้" ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว แนะเน้นกลุ่มที่มีรายได้น้อย  ไม่มีหนี้ เพราะเกิดการใช้จ่ายเงินทันที เตรียมเรียกบิ๊กกระทรวงการคลังถกต่อสัปดาห์หน้า

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่รัฐสภา นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุม กมธ.ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่อง “การประเมินผลเบื้องต้นของมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชิม ช้อป ใช้” โดยเชิญนายภาวิน ศิริประภานุกุล อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าร่วมประชุม โดยได้นำเสนอความคิดเห็นทางวิชาการเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวว่า เป็นนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ซึ่งอาจทำให้เกิดนโยบายของภาครัฐกับการเกิด หรือ Crowding Out Effect ซึ่งไม่สามารถส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้เหมือนนโยบายการคลัง ที่สามารถปรับเพิ่มรายจ่ายที่ส่งเสริมภาคการผลิต โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้จ่ายในรายการสำคัญ ประกอบด้วย ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีข้อเสนอแนะคือ ภาครัฐควรมุ่งเน้นการใช้จ่ายที่มุ่งเน้นในกลุ่มที่มีรายได้น้อยและไม่มีหนี้ เนื่องจากจะเกิดการใช้จ่ายเงินในทันทีและไม่ใช่การใช้จ่ายเพื่อการชำระหนี้ ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะพิจารณาเรื่องมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ ชิม ช้อป ใช้ ต่อโดยจะเชิญสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง มาชี้แจงต่อไป 

นายเท่าพิภพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กมธ. ยังได้รับทราบความคืบหน้าในการดำเนินงานของคณะอนุ กมธ. จำนวน 2 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะอนุ กมธ. พัฒนาเศรษฐกิจการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวอันดามันสู่อ่าวไทย โดยที่ประชุมได้มุ่งเน้นให้ศึกษาการจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวและกำหนดจุดสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงอันดามันสู่อ่าวไทย และแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อดำเนินการศึกษาและรวบรวมข้อมูลตามรูปแบบการท่องเที่ยว จำนวน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงเกษตร กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 2.คณะอนุ กมธ. ศึกษาความคุ้มค่าและประสิทธิผลการส่งเสริมการลงทุนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งได้มีการขอเอกสารเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการศึกษา โดยการประชุมครั้งต่อไปในวันที่22 พ.ย. 2562 จะพิจารณาเรื่อง การประเมินความคุ้มค่าและประสิทธิผลของการส่งเสริมการลงทุนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ