“สมเด็จพระสันตะปาปา”ยินดีไทยเลือกตั้งกลับสู่ ปชต.

2019-11-21 11:20:33

“สมเด็จพระสันตะปาปา”ยินดีไทยเลือกตั้งกลับสู่ ปชต.

Advertisement

รัฐบาลไทยจัดพิธีรับเสด็จ “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส”ในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ประทานสุนทรพจน์ยินดีที่ประเทศไทยมีเลือกตั้ง เป็นก้าวสำคัญกลับมาสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งสร้างความสามัคคี อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ เคารพยกย่องต่อวัฒนธรรม ศาสนา และความคิดเห็นที่แตกต่าง

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ได้จัดพิธีรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เนื่องในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย ครม. ผู้แทนจากเหล่าทัพเข้าให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ ระหว่างนั้น นายกรัฐมนตรีได้เชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสไปที่แท่นรับความเคารพ เพลงบรรเลงจากวงดุริยางค์ ก่อนที่จะเดินพบปะกับคณะนครรัฐวาติกันและฝ่ายไทย ที่มารอเข้าเฝ้าบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า


จากนั้นนายกรัฐมนตรี เชิญสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ไปที่ตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อฉายพระรูปร่วมกัน จากนั้นได้ลงพระนามสมุดเยี่ยม และมอบของที่ระลึกระหว่างกัน ก่อนที่จะพากันไปพบปะกับ ครม. คณะทูตานุทูต แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ที่มาเข้าเฝ้าเพื่อรับฟังสมเด็จพระสันตะปาปาฟราสซิส ประทานสุนทรพจน์

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับในนามของรัฐบาลไทย และประชาชนชาวไทย ว่า ด้วยเกล้ากระหม่อมเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสรับเสด็จฝ่าพระบาทในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสอันพิเศษอย่างยิ่งในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับนครรัฐวาติกัน ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 350 ปี ของการจัดตั้งคณะมิสซังคาทอลิกแห่งสยาม และวาระแห่งการครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับนครรัฐวาติกันอีกด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวชื่นชมในพระกรณียกิจที่น่ายกย่องของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่สร้างความสามัคคีปรองดองระหว่างมนุษยชาติ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะในหมู่เยาวชน การขจัดความยากจน การสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมบรรยากาศแห่งสันติภาพให้บังเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก


จากนั้น สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประทานสุนทรพจน์แก่คณะรัฐบาล ผู้นำสังคม และคณะทูตานุทูต ในใจความสำคัญถึงปัญหาของโลกในปัจจุบัน ที่เป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อทุกส่วนของโลก เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัวมนุษยชาติ และเรียกร้องให้มีความตั้งใจจริง ในการที่จะทำให้เกิดความยุติธรรมระหว่างประเทศ และความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างประชาชนทุกหมู่เหล่า จึงเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งในการที่ประเทศไทยกำลังจะหมดวาระของการเป็นประธานของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการร่วมแรงร่วมใจ ในการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนในภูมิภาคนี้กำลังเผชิญ และยังเป็นหนทางในการที่จะนำไปสู่ความร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจ และ วัฒนธรรม ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันดกดื่น เป็นประเทศพหุสังคมที่มีความหลากหลายอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นประเทศที่ยอมรับถึงความสำคัญในการสร้างความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ โดยแสดงความเคารพและยกย่องต่อวัฒนธรรม ศาสนา และความคิดเห็นที่แตกต่าง 


สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ยังได้กล่าวแสดงความยินดีกับประเทศไทย หลังจากที่ได้จัดการเลือกตั้ง ไปแล้ว จึงเป็นก้าวสำคัญในการกลับมาสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย และประเด็นการเคลื่อนไหวของผู้ย้ายถิ่น ว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่การอพยพย้ายถิ่นฐาน แต่อยู่ที่สถานการณ์อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอพยพย้ายถิ่น ซึ่งเป็นปัญหาทางด้านจริยธรรมที่สำคัญยิ่งในยุคสมัย พระองค์ทรงพระวิงวอนให้ประชาคมระหว่างประเทศ ดำเนินการด้วยความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาที่ผลักดันให้ประชาชนต้องหลบหนีออกจากประเทศของตน และส่งเสริมให้มีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย มีการจัดการ และมีการควบคุมที่ดี