ยิ่งคุ้ยยิ่ง "โป๊ะแตก" สำหรับที่ดิน ส.ป.ก. ที่ถูกนักการเมืองถือครอง ทั้งที่โดยคุณสมบัติและความเหมาะสมแล้ว ไม่ควรจะได้สิทธิ์นั้น
แต่ในฐานะนักการเมืองไทยที่มีดีเอ็นเอพิเศษ กลับสามารถถือครองได้เหนือกว่าเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ควรได้รับการจัดสรรตามกฎหมาย ทั้งถือครองเอง กระจายให้คนใกล้ชิดถือครองแทน หรือแม้แต่ให้ชาวบ้านเป็นนอมินีถือครองแทน ตามระบบอุปถัมภ์ของสังคมไทย
นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ยอดคุณแม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องให้ตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.เกือบ 3,000 ไร่ที่ราชบุรี ที่อ้างว่าซื้อต่อจากโรงงานน้ำตาล
นายทวี ไกรคุปต์ ผู้พ่อ อดีต ส.ส.หลายสมัย และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ผู้ลูก ส.ส.หลายสมัยราชบุรีเช่นกัน ถูกร้องเรียนว่าถือครองที่ดินประมาณ 1,700 ไร่ ส่วนใหญ่เป็น ส.ป.ก. สำหรับทำฟาร์มไก่ และปศุสัตว์
ขณะที่ยังไม่มีขั้นตอนการตรวจสอบจากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร หรือ ส.ป.ก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความกระจ่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ จากพรรคพลังประชารัฐ ออกโรงรับประกันทันควัน 2 พ่อลูกตระกูลไกรคุปต์ ไม่เข้าข่ายบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.โดยให้เหตุผล บรรพบุรุษถือครองมาตั้งแต่ปี 2494 ก่อนจะมีกฎหมาย ส.ป.ก.
นอกจากนี้ ยัง "ทิ้งบอมบ์" ใส่พรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ระบุมีนักการเมืองถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ทั้งในภาคใต้ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดนครราชสีมา รวมกระทั่งวัดป่าบ้านตาดของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ ก็บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.อีกถึง 700 ไร่ จากที่ได้รับอนุญาตให้ใช้จริงเพียง 300 ไร่
ขณะเดียวกัน กลับมีการมอบที่ดิน ส.ป.ก. 16 ไร่กว่าที่จังหวัดกระบี่ ให้กับนายสมัชชา เอ่งฉ้วน อดีตผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ พรรคพลังประชารัฐ หลานชายนักการเมืองตระกูลดัง โดยให้เหตุผลเป็นความต่อเนื่องจากรัฐบาล คสช. และนายสมัชชาก็มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายระบุไว้
สวนทางกับความเห็นและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ซึ่งมุ่งเน้นไปที่เรื่องความเหมาะสมเป็นสำคัญ
ที่จริง เรื่องถือครองที่ดิน ส. ป.ก. รวมถึงที่ดินประเภทอื่นที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ตามกฎหมายนั้น ว่ากันว่า หากมีการตรวจสอบจริง จะพบทั้งนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น รวมทั้งข้าราชการ และกลุ่มธุรกิจที่เป็นเครือข่ายหรือใกล้ชิดกับนักการเมือง มีไว้ในครอบครองแทบทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพียงแต่ว่า หน่วยงานและกลไกในการตรวจสอบ จะเอาจริงเอาจังหรือกล้าท้าชนหรือไม่
การหยิบยกและมีข้อกล่าวหาการถือครองของนักการเมืองและนอมินีในช่วงที่ผ่านๆมา จึงถูกตั้งข้อสังเกตุและเชื่อว่า เป็นเพียงเรื่องข่มขู่หรือเจรจาต่อรองเรื่องผลประโยชน์ซึ่งกันและกันเสียมากกว่า
โดยเฉพาะ ช่วงใกล้เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งรัฐมนตรีบางคนที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน ส.ป.ก.รู้ตัวดีว่า ถูก "จองกฐิน" ไว้ล่วงหน้าแล้ว
ต้องไม่ลืมว่า เรื่องที่ดิน ส.ป.ก .ถือเป็นเรื่องใหญ่และส่งผลเอฟเฟคท์มหาศาล ถึงขั้นรัฐบาลอยู่ไม่ได้ ต้องประกาศยุบสภามาแล้ว ไม่เชื่อลองไปถามพรรคประชาธิปัตย์ดู
อิทธิฤทธิ์อิทธิเดช ของที่ดิน ส.ป.ก. ไม่ธรรมดาครับ เพียงแต่จะทำจริง หรือไว้ใช้เขย่าขวัญนักการเมือง เท่านั้นแหละ!
