“คารม”แนะรองโฆษก พปชร.อ่านประวัติศาสตร์ให้มากก่อนแสดงความเห็น

2019-11-19 16:20:39

“คารม”แนะรองโฆษก พปชร.อ่านประวัติศาสตร์ให้มากก่อนแสดงความเห็น

Advertisement

“คารม”แนะรองโฆษก พปชร.ไปอ่านประวัติศาสตร์การเมืองไทยให้มากกว่านี้ แล้วค่อยมาแสดงความคิดเห็น

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บรรยายกลไกทำงานเกี่ยวกับลอว์แฟร์ หรือ Lawfare หรือการใช้กระบวนการทางยุติธรรมเป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูทางการเมือง โดยนายคารมกล่าวว่าความจริงรองโฆษก พปชร.อาจมีความรู้ทางการเมืองน้อยไปหน่อยหรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะหยิบเอา เฉพาะในส่วนที่ตัวเองได้ประโยชน์มาโจมตีนายปิยบุตร น่าจะหาเวลาศึกษาว่าเวลาทหารยึดอำนาจ หรือทำรัฐประหารส่วนใหญ่ทหารจะไม่เข้าไปทำอะไรกับศาลไทย แต่หลังปี 2549 ที่อดีตประธานศาลฎีกา เข้าไปเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจจากนั้นขบวนการตุลาการภิวัฒน์ก็เป็นที่รับรู้ของสังคมไทยมาเป็นลำดับว่าศาลกับการเมืองเกี่ยวข้องกันว่ารองโฆษก พปชร. อาจไม่ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์เหล่านี้

นายคารม กล่าวต่อว่า นายปิยบุตร พูดถึงเรื่องลอว์แฟร์ในมิติของหลักการว่าศาลควรจะวิพากวิจารณ์ได้ เพราะศาลมีพวกมีเพื่อนมีชีวิตจิตใจศาลเป็นคนเพราะฉะนั้นการพูดถึงศาลจึงพูดถึงได้โดยเฉพาะนักการเมืองที่ประชาชนเลือกมาเป็นคนใช้อำนาจอธิปไตยเหมือนกับศาล ยิ่งต้องวิพากษ์วิจารณ์ศาลได้เพราะฐานะเท่ากัน แต่ประเทศไทยพยายามจะบอกว่าศาลมีฐานะสูงกว่าทุกองค์กร ศาลมีกฎหมายพิเศษคุ้มครอง นายปิยบุตรทราบดีจึงไม่มีทางจะไปกดดันศาลได้ เท่าที่ฟังเรื่องที่พูดก็เป็นการพูดเชิงหลักการที่เป็นสากล เรื่องหลายเรื่องเราเลือกอะไรที่เป็นสากล แต่พอบางเรื่องเราจะบอกว่านี่ประเทศไทยไปเอาความเป็นสากลมาเทียบไม่ได้ สรุปง่ายๆคืออะไรดีกับตัวเองจะเอามาใช้ว่างั้น รองโฆษกพปชร.ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่รู้หรือว่าในต่างประเทศเขาวิพากวิจารณ์คำพิพากษาของศาลได้เต็มที่ไม่แปลกใจเหรอทำไมประเทศที่พัฒนาแล้วศาลจึงได้รับการยอมรับเพราะศาลเขาแยกออกจากการเมืองนั้นเอง ดังนั้นควรจะหาความรู้เรื่องนี้ให้มากไม่ต้องรีบพูด พรรคอนาคตใหม่ยึดหลักการที่เป็นสากลในการทำงานทุกระดับและเข้าใจกติกาบ้านเมืองดี แต่ที่เราต้องพูดความจริงเพราะเราอยากเห็นทุกอย่างเป็นที่ยอมรับของสังคมโลกไม่ใช่พูดให้ถูกใจใคร หรือเอาใจผู้มีอำนาจเพียงเพราะอยากมีอำนาจได้นานๆบนหลักการที่บิดเบี้ยวแต่ระยะยาวบ้านเมืองจะเสียหาย