หนุ่มปฏิเสธข้อหารัวอาก้าถล่มบ้านคู่อริ

2017-08-17 10:20:45

หนุ่มปฏิเสธข้อหารัวอาก้าถล่มบ้านคู่อริ

Advertisement

ตำรวจสอบปากคำเพิ่มเติมผู้ต้องหารัวอาก้าถล่มบ้านคู่อริกลางเมืองชุมแพ จ.ขอนแก่น ด้านผู้ต้องหาให้การปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อ้างวันเกิดเหตุไปเที่ยวผับ ขอต่อสู้คดีในชั้นศาล

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ร.ต.อ.สุวิวัฒน์ นิติไกรสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น คุมตัวนายณัฐวุฒิ ขุนดินพิทักษ์ หรือ “โต้ง” อายุ 20 ปี มาสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมทนายความส่วนตัว หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน จับกุมตัวเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมแพ ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร โดยจับกุมได้ที่ลานจอดรถหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในซอยสรงประภา 30 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง
  




ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 24 พ.ค. ศูนย์วิทยุ สภ.ชุมแพ ได้รับแจ้ง มีคนใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.ไชยสอ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ จากการสอบสวน น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี อยู่บ้านที่เกิดเหตุ ให้การว่า มาอาศัยอยู่กับแฟนคือนายปุ้ย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ที่มีอาชีพเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ แต่ในช่วงกลางดึกมีผู้ชายวัยรุ่นขับรถเก๋ง 1 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน มาจอดที่ถนนหน้าบ้าน โดยหนึ่งในคนร้ายได้เดินเข้ามาและตะโกนเรียกชื่อตน ซึ่งตนจึงขานรับและเดินออกมาพบ โดยชายคนดังกล่าวได้ยกปืนลูกซองยาวเล็งมาที่ตน แต่ตนร้องว่าอย่ายิงก่อนจะก้มหมอบลงที่พื้น ซึ่งในขณะนั้นแฟนก็นอนอยู่ภายในบ้าน แต่คนร้ายไม่ฟังใช้อาวุธปืนรัวยิงใส่บ้านอย่างไม่ยั้ง รวมถึงพรรคพวกในรถก็ลงรถมาช่วยกันกระหน่ำยิง สิ้นเสียงปืน ทุกคนวิ่งขึ้นรถขับหลบหนีไปก่อนที่ตนจะโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ





ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากรับแจ้ง ได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้คือ นายณัฐวุฒิ จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชุมแพ แต่หลังก่อเหตุผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมออกนอกพื้นที่ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ กทม.จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ติดตามจับกุมตัวดังกล่าว 

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหา ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าวันเวลาเกิดเหตุดังกล่าว ตนได้เที่ยวอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น ไม่ได้มีส่วนหรือรู้เห็นกับเหตุการณ์ หลังจากนี้จะขอต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป