การเมืองโบลิเวียยังวุ่นไม่เลิก เมื่อนางเจนิน อาเนซ ประธานวุฒิสภา นักการเมืองฝ่ายค้านและฝ่ายขวา ประกาศตัวเองเป็นประธานาธิบดีรักษาการ เมื่อวันอังคาร ขณะที่อดีตประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ที่บินไปลี้ภัยที่ประเทศเม็กซิโก ประกาศจะต่อสู้ทางการเมืองต่อไปจากต่างแดน หลังจากลาออก ซึ่งเขาระบุถูกรัฐประหาร
นางอาเนซวัย 52 ปี ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำรักษาการ ต่อที่ประชุมสภาคองเกรส ในกรุงลาปาซ โดยอ้างสิทธิตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ หลังจากโมราเลสและรองประธานาธิบดีอัลวาโร การ์เซีย ลาออกในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อวันอาทิตย์ และเธอประกาศที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่โดยเร็ว
ที่ประชุมสภาคองเกรสกำหนดจะลงมติแต่งตั้งนางอาเนซ อย่างเป็นทางการ แต่กลุ่ม ส.ส.ในสังกัดพรรคมาส (MAS) พรรคฝ่ายซ้ายของโมราเลส คว่ำบาตรการประชุม โดยระบุว่าการครองตำแหน่งของนางอาเนซไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โมราเลสซึ่งเดินทางถึงกรุงเม็กซิโกซิตี เมื่อวันอังคาร ได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำเม็กซิโก ที่อนุมัติให้เขาลี้ภัย ซึ่งเป็นการช่วยชีวิตเขาไว้ โมราเลสกล่าวอีกว่า ตราบใดที่เขายังมีชีวิต เขาจะอยู่ในการเมือง และจะสู้กับการเมืองในโบลิเวียต่อไป แม้จะอยู่ในต่างประเทศ
ที่กรุงวอชิงตัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐรายหนึ่ง กล่าวว่า การเดินทางออกนอกประเทศของโมราเลส ถือเป็นก้าวย่างที่ดีมาก สำหรับการคลี่คลายสถานการณ์ความไม่สงบ จากการประท้วงในโบลิ เวีย รัฐบาลสหรัฐได้รับแจ้งจากทางการเม็กซิโก เกี่ยวกับการเสนอที่ลี้ภัยให้โมราเลส และทำเนียบขาวตอบกลับไปว่า สหรัฐได้เสนอให้ความช่วยเหลือทางด้านการจัดหาเครื่องบินโดยสารสำหรับการเดินทาง.