แพทย์เผยความคืบหน้า อาการผู้บาดเจ็บ เหยื่อกระสุนอดีตจเรตำรวจ คลั่งยิงโจทย์-ทนาย ในห้องพิจารณาคดี ศาลจันทบุรี ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว พร้อมแจงรอยกระสุนที่ตรวจพบบน 3 ศพ
วันที่ 13 พ.ย. ที่อาคารประชาธิปก รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.พระปกเกล้า จันทบุรี พร้อมด้วย แพทย์นิติเวช และคณะแพทย์ผู้ดูแลรักษา ผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย คือ นางสุภาพร ปรมีคณาภรณ์ อายุ 59 ปี โจทย์ และ นายวิชัย อุดมธนภัทร อายุ 51 ปี ทนายความ ที่ถูก พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี อดีตจเรตำรวจ เกษียณราชการ ใช้อาวุธปืนพกสั้น กล็อก 22.40 กระหน่ำยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าบัลลังก์พิพากษา ห้องพิจารณาที่ 2 ศาล จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้เปิดการแถลงข่าว ความคืบหน้า อาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ต่อสื่อมวลชน
นายเกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.โรงพยาบาล พระปกเกล้าฯ เปิดเผยว่า
ในส่วนอาการนางสุภาพร ที่ถูกนำตัวส่งเข้ามารักษา เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บสำคัญ
มาด้วยถูกยิงบริเวณท้อง และ ขาซ้าย 15 นาที ก่อนมาถึง รพ. โดยหลังเข้ารับการผ่าตัด ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี มีอาการตอบสนอง หายใจสัมพันธ์กับเครื่องดี แผลผ่าตัดหน้าท้อง ที่บริเวณขาหนีบข้างซ้าย และที่ฝ่าเท้าข้างซ้าย มีอาการดีขึ้น ปัจจุบันผู้ป่วย รู้สึกตัวดี ระบบการหายใจปกติ
ในส่วนอาการบาดเจ็บของ นายวิชัย อุดมธนภัทร อาการสำคัญ เข้ามารับการรักษา จากสาเหตุถูกยิงบริเวณนิ้วก้อยมือขวา อาการปัจจุบัน รู้สึกตัวดี แผลเย็บที่นิ้วก้อย แท้งดี ไม่มีเลือดซึม ไม่บวมแดง มีแผลถลอกบริเวณสีข้างด้านขวา โดยวันนี้แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
ขณะที่ทาง นพ. พฤพงศ์ มกรเสน แพทย์นิติเวช เปิดเผยถึงรายละเอียด บาดแผลเบื้องต้น ที่ตรวจพบจากการฉายเอ็กซเรย์ บนร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย จากเหตุการณ์ยิงกันในศาลจันทบุรี ก่อนถูกนำไปผ่าชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ ที่ศพของ พล.ต.ต.ธารินทร์ พบบาดฉกรรจ์ บริเวณช่องท้องด้านซ้ายและด้านขวา จำนวน 2 นัด มีขนาดใกล้เคียงกัน และรอยกระสุนปืนถาก ที่บริเวณศีรษะ แขนซ้าย รอยถูกกระสุนปืนเข้า 2 แผล ออก 2 แผล ที่บริเวณเข่าด้านขา ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกัน และจากการเอ็กซเรย์ ไม่พบมีกระสุนตกค้างในร่างของ พล.ต.ต.ธารินทร์ คาดว่ามีการนำออกในขณะที่ผ่าตัดรักษา ซึ่งได้ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนใช้เป็นหลักฐาน ซึ่งนำมาเปรียบเทียบก็จะสามารถระบุได้ว่าเป็นกระสุนขนาดไหน
ในส่วนบนศพของ นายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ จากการตรวจด้วยการเอ็กซเรย์
พบมีกระสุนปืนค้างที่บริเวณกราม บริเวณปาก กระดูกรามแตกหลายแห่ง ที่คาดว่าจะเกิดจากรอยกระสุนปืนที่ทะลุจากลำคอด้านซ้าย และพบบาดแผลจากกระสุนปืน ที่บริเวณขาหนีบด้านซ้าย และที่บริเวณขาขวา และจากการฉายภาพรังสี พบมีกระสุนปืนตกค้างที่บริเวณขาหนีบ
ส่วนบนศพของผู้เสียชีวิตอีกรายคือ นายวิจัย สุขรมย์ ทนายฝ่ายโจทย์ จากการเอ็กส์เรย์ พบมีบาดแผลจากกระสุนปืนที่บริเวณขมับซ้าย และจากการฉายรังสีพบมีกระสุนตกค้างในกะโหลกศีรษะที่คาดว่าน่าจะโดนในส่วนของสมอง และพบมีบาดแผลกระสุนอยู่ที่บริเวณอก และจากการฉายรังสี ยังพบมีกระสุนปืนค้างอยู่ที่ช่องอก 1 นัด
ที่ช่องท้องอีก 1 นัด และ ที่ข้อศอกขวาอีก 1 นัด และที่บริเวณสีข้าง มีรอยกระสุนปืน
อีก 1 นัด
ทั้งนี้ กระสุนที่ถูกผ่าตัดออกมาจากผู้บาดเจ็บและ ผู้เสียชีวิต ได้ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนใช้เป็นหลักฐาน ซึ่งถ้านำมาเปรียบเทียบ ก็จะสามารถระบุได้ว่าเป็นกระสุนขนาดไหน