ผันตัวออกมาเป็นนักแสดงอิสระหลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิม ทำให้เกิดกระแสทางโซเชี่ยลต่างรุมต่อว่าเป็นคนเนรคุณ เหตุที่ไม่ต่อสัญญาเพราะเรื่องเงิน ล่าสุด เบนซ์ ปุณยาพร ได้ออกมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บShow ทางถึงข่าวดังกล่าว และเหตุที่ยังไม่เปิดตัวหวานใจเพราะเชื่อเรื่องดวง กลัวงานหด ว่า
ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระเต็มตัว ไร้สังกัด ?
เบนซ์ : ใช่ค่ะ ตัดสินใจออกมาเพราะอยากออกมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ตัวเราก็โตขึ้นด้วย อยู่มาก็ 10 กว่าปี มีความรู้สึกว่าการที่เราได้รับแต่บทเดิมๆ เราก็อยากจะเปลี่ยนบ้าง อยากเจอกองใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง
กระเทาะใจ "เบนซ์ ปุณยาพร" จบกันด้วยดี ยัน ไม่มีวันลืมพระคุณ
ได้คุยกับที่เดิม ?
เบนซ์ : เรียบร้อยค่ะ คุยกันโอเค ตอนที่เรียกเข้าไปคุยว่าจะต่อสัญญามั้ย ก็คุยกันว่าเราก็อยากโตขึ้น
ปกติเค้าเรียกเราเข้าไปหรือเราเข้าไปเวลาครบสัญญา ?
เบนซ์ : เค้าจะมาบอกค่ะ ว่าตอนนี้จะหมดแล้ว เบนซ์อยากจะต่อมั้ย เบนซ์มีความรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแล้ว เราเลยคุยกับเค้าว่าไม่ต่อก็แล้วกัน
เราอยู่ช่องเดิมมากี่ปีแล้ว ?
เบนซ์ : ประมาณ 14-15 ปีค่ะ ตั้งแต่อายุ 18 เราเข้าวงการโดยการประกวดดัชชี่ มาทำงานด้วย มาเรียนด้วย เหมือนจับพลัดจับผลูว่ามาประกวด ได้ตำแหน่ง แล้วก็ได้มาทำงาน
สาเหตุที่ไม่ต่อสัญญาเพราะน้อยใจหรือเปล่า ช่องดันแต่เด็กใหม่ๆ ?
เบนซ์ : เรื่องนี้เบนซ์ว่าคนในวงการบันเทิงน่าจะเจออยู่แล้ว แล้วมันก็ต้องมีรุ่นใหม่ๆเกิดขึ้นเรื่อยๆอยู่แล้ว เราก็มองภาพตัวเราเองว่าเราก็อายุมากขึ้น เค้าก็ต้องดันคนอื่นอยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติ แล้วก็มีความรู้สึกว่าเราควรให้รุ่นน้องขึ้นมาแล้วเราก็ไปหาที่อื่นๆ เอาดีกว่า น่าจะมีความหลากหลายมากกว่า เบนซ์ก็เลยตัดสินใจว่าไม่ต่อดีกว่า
จริงๆตั้งแต่เข้ามาส่วนใหญ่รับบทอะไรบ้าง ?
เบนซ์ : จริงๆถือว่าโชคดีมากๆ จับพลัดจับผลูได้เป็นนางเอกเลย แก่นเซี้ยว เล่นตั้งแต่เด็กจนโตเป็นแม่ ทุกคนก็จะแบบทำไมเอาเด็กอายุ 18 มาเล่นเป็นแม่ในตอนนั้น ในเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง มันเป็นบทบาทที่ยากสำหรับเราเพราะเล่นตั้งแต่เป็นเด็ก มาเป็นผู้ใหญ่ จนแก่ มันยากมากสำหรับเรา ก็มีความกดดัน
เหตุผลบอกว่าได้เล่นแต่บทเดิมๆ แต่จริงๆก็เปลี่ยนเยอะเหมือนกัน อย่างบทร้ายเล่นมั้ย ?
เบนซ์ : ร้ายก็เล่นค่ะ เล่นหมดทุกอย่าง แต่ว่าช่วงหลังๆก็จะได้รับแต่บทเรียบร้อยเกินไป ซึ่งไม่ใช่ตัวเรา คือจริงๆแล้วรู้สึกว่าตัวเราน่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง ให้คนดูได้เห็นอย่างอื่นบ้าง
ไม่ต่อสัญญาเพราะเรื่องเงินเกี่ยวมั้ย ?
เบนซ์ : เรื่องเงินเป็นอะไรที่เราก็อยากได้ไปทุกช่อง เพราะว่าด้วยภาระของเรามี ยอมรับว่าเบนซ์ก็ซื้อบ้านด้วยที่กรุงเทพฯ แล้วเป็นช่วงที่เราต้องหาเงินไม่อยากเป็นหนี้ แล้วเราก็อยากจะปิดบ้านให้หมด เราก็ตั้งเป้าหมายในชีวิตว่าอีก 5 ปีอยากจะปิดบ้านให้หมด ก็เลยตัดสินใจว่าออกมาดีกว่า ถามว่ายอมรับมั้ยก็ยอมรับนะ ทุกคนก็อยากได้เงินมั้ย อีกอย่างเบนซ์ก็ทำธุรกิจด้วยก็อยากจะโฆษณาช่องอื่นด้วย ถ้าเราอยู่แค่ช่องๆเดียวมันก็ได้แค่ช่องเดียว
วันที่ผู้ใหญ่เรียกเข้าไปคุยแล้วเราต้องบอกเหตุผลเค้าแบบนี้ เค้าว่ายังไงบ้าง ?
เบนซ์ : พูดเรื่องนี้ทีไรแล้วรู้สึกอึดอัด ตอนนั้นเราคิดนานมากเลย เราทำงานในวงการที่นี่มาเกือบ 15 ปี คือเหมือนกับเค้าให้เงินแล้วก็ดูแลเราเป็นอย่างดี ไม่เคยมีใครรู้เลยว่าหนูรู้สึกยังไงเวลาที่เห็นคอมเม้นท์ต่างๆ มากมายว่าทำไมอกตัญญูกับช่องเดิม ทำไมไม่อยู่ที่เดิม แต่เค้าไม่รู้ข้างหลังเลยว่าเรามีภาระจะต้องทำงาน ตอนที่เราตัดสินใจไปบอกเค้า ช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้ๆวันเกิดเรา ก็คิดว่าเค้าคงไม่มีเค้กให้เราแล้วเพราะเราออกไปแล้ว แต่เค้าก็ยังโทรมาบอกว่า “น้องเบนซ์เดี๋ยวมารับเค้กวันเกิดของเราด้วยนะ” วันนั้นเลยโทรไปหาแม่ว่ารู้สึกใจหายจังเลย เราเป็นเหมือนพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง ที่เราทำงานแล้วอยู่ดีๆก็ต้องย้าย ออกจากที่เดิม มันก็ใจหาย พอพูดเรื่องนี้ทีไรรู้สึกแบบนี้ตลอดเวลา มันตื้นตัน ก็ยังรักอยู่เหมือนเดิม ตอนที่ไปบอกเค้า เค้าก็บอกว่าถ้ามีคาแร็คเตอร์อะไรที่เหมาะ อยากให้เบนซ์กลับมาร่วมงานกันอีกนะ
เค้าได้มีการยื่นสัญญาตัวใหม่ให้เราดูก่อนมั้ยหรือเค้ามีการคุยว่าแพลนเราในอนาคตว่ายังไง ?
เบนซ์ : คือเค้าบอกว่าลองคิดดูก่อนมั้ย ลองกลับไปคิดอีกรอบนึงก่อน แต่ว่าเราเป็นคนที่ถ้าเดินแล้วก็ขอเดินแล้ว ชัดเจน
ตอนนั้นที่โดนคอมเมนต์ มีคอมเมนต์ไหนที่เราอ่านแล้วรู้สึกเสียใจ ?
เบนซ์ : มีเยอะมากค่ะ เขียนมาจนแบบเรารู้สึกว่าทำไมเค้าไม่เข้าใจเราเนอะ อกตัญญูทำไมถึงทรยศช่อง ออกมาแล้วไม่มีทางจะไปได้ดีแน่นอน
พอเจอคอมเมนต์แบบนั้นแล้วรู้สึกยังไงบ้าง เห็นว่าอ่านไปร้องไห้ไป ?
เบนซ์ : เสียใจค่ะ ก็รู้สึกว่าทำไมคนเค้าถึงไม่เข้าใจเรา
อยากบอกอะไรกับคนที่เค้ายังไม่เข้าใจเรา ?
เบนซ์ : อยากบอกว่าคนเราทุกคนมีภาระของตัวเองอยู่แล้ว มีภาระต้องรับผิดชอบอยู่เบื้องหลัง ซึ่งบางทีคนบางคนไม่รู้ อยากให้ทุกคนเข้าใจ มาติดตามผลงานเบนซ์เหมือนเดิม ยังรักเบนซ์เหมือนเดิม
ถ้ามีโอกาสอยากบอกกับสังกัดเดิมที่สร้างเรามา อยากจะบอกอะไร ?
เบนซ์ : ก็อยากจะบอกว่ายังรักเหมือนเดิมนะคะ ยินดีที่จะร่วมงานกับเค้าด้วย ยังไงที่นี่ก็เป็นจุดแรกที่ทำให้เรามีชื่อเสียง มีเงินทอง แล้วก็มีทุกๆอย่างในวันนี้ ก็ยังรักเหมือนเดิมค่ะ
เคยได้ฉายาเด็กหน้าหนอน ?
เบนซ์ : จริงค่ะ ตอนนั้นเราอายุ 18 เป็นช่วงที่เราเข้ามาวงการบันเทิงแรกๆ แล้วไม่รู้จักดูแลตัวเอง เราแต่งหน้าแล้วล้างหน้าไม่สะอาดแล้วมันสะสมก็ขึ้นเป็นผดตลอดเวลา ถ่ายละครอัดกันสามเรื่องแล้วเรียนไปด้วย ไม่มีเวลาพักผ่อนเลย แล้วก็โดนล้อตลอดเวลาว่าเป็นนางเอกหน้าหนอนได้ยังไง ช่างแต่งหน้าที่สนิทกันเค้าก็ล้อ แต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่พอโดนบ่อยๆแล้วเราไปเช็คในมอนิเตอร์มันก็เห็นจริงๆ ก็แอบร้องไห้ที่บ้าน มันเหมือนปมด้อยในชีวิตเลย แล้วก็ไม่อยากทำงานเลยตอนนั้น เลิฟซีนเป็นกระแสดุเดือดมาก ตอนแรกแม่หวงมาก ไม่เล่นเลิฟซีนเลย
เล่นจริงใช่มั้ย ?
เบนซ์ : จริงซิคะ เรื่องนี้ที่รับเพราะจริงๆแล้วอยากเปลี่ยนด้วย คาแร็คเตอร์ใหม่ๆบ้าง ไม่อยากเล่นบทเดิมๆ ตอนนั้นยังไม่ได้คุยกับแม่ พอละครออนแอร์แล้วเค้ามาเห็น แม่ก็โทรมาเลยว่า ลูกแม่ว่าเยอะไปหน่อย คือถ้าเป็นอย่างอื่นได้ แต่อันนี้อาจจะนิดนึง
นิงนึงของเรามันเป็นฉากยังไง ?
เบนซ์ : ในเรื่องมันมันจะเป็นยาเสน่ห์ มันจะทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ แล้วในฉากมันจะต้องลูบขาด้วย พอตัดภาพออกไปมันจะดูเซ็กซี่มากเกินไป
แม่งอนไม่เท่าไหร่ แต่คนที่เป็นตัวจริงของเราล่ะ ?
เบนซ์ : ไม่เลยค่ะ ถ้างานเค้าก็จะไม่อะไรเลย คนที่มีปัญหามากที่สุดน่าจะเป็นแม่
เป็นกฎเหล็กของบ้านนี้ไม่ใช่หรอว่าแม่ห้ามเล่นเลิฟซีน ?
เบนซ์ : อาจจะไม่ได้เลิหซีนดุเดือดขนาดนี้ ถ้าจุ๊บปากได้
ยังงี้แม่ก็เปิดทางให้แต่งงานได้แล้วซิ ?
เบนซ์ : จริงๆ แล้วตัวเค้าก็อยากแหละค่ะ แต่เราอ่ะยัง เหมือนเราเชื่อเรื่องดวงว่ามันยังไม่ถึงเวลาก็ยังไม่อยากเปิด เพราะเดี๋ยวงานหาย