ตำรวจอยุธยาเจ๋งคลี่คลายคดีจบในวันเดียว รวบ 2 ผู้ต้องหาฆ่าโหด 3 ศพฝังดินกลางทุ่งนา เผยชนวนเหตุหักกันเรื่องยาบ้าหาย 2,000 เม็ด กลุ่มผู้ตายทวงคืน จึงบันดาลโทสะชักปืนยิงเสียชีวิต
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ณพล กลัดเข็มเพชร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาประชุมเพื่อคลี่คลายคดีฆ่าโหดฝังดิน 3 ศพ พร้อมตรวจสอบวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ
พล.ต.อ เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ในขณะนี้ได้ตัวผู้ต้องสงสัยมาแล้วมีความเกี่ยวพันกับยาเสพติดซึ่งจะต้องทำการสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อออกหมายจับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัวนายจรัญ หรือ เอ๋ สังข์วิเศษ อายุ 46 ปี ไปที่บริเวณกระท่อมสังกะสีเพื่อชี้จุดที่มีการนั่งพุดคุยกัน ดื่มสุรากัน และเก็บโทรศัพท์ เสื้อเปื้อนเลือดนำไปเผา และไปชี้จุดที่ทิ้งรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน หลังจากเมื่อวันที่ 14 ส.ค.งมขึ้นมาได้เพียง 2 คัน
จากนั้นชุดสืบสวนควบคุมตัวนายกริษณ์ หรือ แจ้ว นิ่มน้อย อายุ 46 ปี ผู้ต้องหา ไปชี้จุดที่นำอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ไปซุกซ่อน ขุดหลุมฝังดินเอาไว้ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลมตร พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำการสอบสวนอย่างละเอียด ก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับ
รายงานข่าวแจ้งว่า นายกริษณ์ ได้ให้ นายจรัญ โทรศัพท์นัดกลุ่มผู้ตายมาพบที่บริเวณกระท่อม เคลียร์เกี่ยวกับยาบ้าของกลุ่มผู้ตายที่หายไป 2,000 เม็ด ซึ่งกลุ่มผู้ตายให้นายกริษณ์ และนายจรัญไปปล่อย แต่ทั้งคู่อ้างว่าทำหาย เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ นายกริษณ์ จึงใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงกลุ่มผู้ตาย แล้วช่วยกันขนศพลงเรือเพื่อนำไปฝังอีกฝั่ง เมื่อถึงฝั่งจึงได้ช่วยกันขุดหลุมฝังศพดังกล่าว และนำรถจักยานยนต์ของผู้ตายทิ้งลงน้ำ พร้อมเผาทำลายโทรศัพท์มือถือ และฝังโทรศัพท์มือถือ ของผู้ตายใกล้กับจุดที่เกิดเหตุ ก่อนแยกย้ายกันหลบหนีไปและถูกจับกุมในที่สุด