"อาเล็ก" อัพเดตหลังคุณแม่ผ่าตัด เผยทริปพา "เต้ย" เที่ยวนิวซีแลนด์สุดแฮปปี้ !

2019-10-31 12:35:36

"อาเล็ก" อัพเดตหลังคุณแม่ผ่าตัด เผยทริปพา "เต้ย" เที่ยวนิวซีแลนด์สุดแฮปปี้ !

Advertisement

ทำเอาหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อหนุ่ม "อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ" ได้โพสต์ภาพพร้อมคุณแม่ขณะไปผ่าตัดไทรอยด์แล้วนำชิ้นเนื้อไปตรวจเมื่อหลายวันก่อน โดยผลชิ้นเนื้อนั้นไม่ได้เป็นเนื้อร้ายอะไร ล่าสุดเจอเจ้าตัวเลยสอบถามถึงอาการของคุณแม่ และถามถึงทริปที่ควงสาว "เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ" ไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์สองต่อสองแบบหวานๆ ว่า

เห็นคุณแม่เพิ่งไปผ่าตัดมา ?
ใช่ครับ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ลงโซเชียลอะไร ซึ่งคุณแม่ก็ไปผ่ามาแล้ว ก้อนใหญ่มาก คุณหมอก็เอาไปตรวจว่ามันมีเชื้อมะเร็งหรือเปล่า มันมีประมาณสิบกว่าก้อน พอเช็กออกมาก็ไม่เป็นอะไร ก็ดีใจครับ ตอนแรกก็มีความกังวลแหละครับ แต่อาจารย์หมอท่านที่ผ่าได้บอกว่าไม่น่าเป็นอะไร แต่ต้องรอผลที่ผ่าแบบละเอียด ซึ่งตอนนั้นก็กลัวๆ





สาเหตุที่ทำให้รู้ตัวเกิดจากอาการอะไร ?
ตอนแรกแม่เป็นไทรอยด์ครับ เหมือนมีเนื้องอกออกมาแต่มันไม่เป็นพิษ แม่เป็นมานานแล้ว และหมอที่เคยตรวจๆ แม่มาเขาบอกว่า ถ้าไม่ได้ห่วงสวยมันก็ดูไม่เป็นพิษ ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร ก็ไม่ต้องผ่าก็ได้ แต่พอสุดท้ายพอมันโตมากๆ หมอท่านก็บอกว่ามีบางก้อนเริ่มดูไม่ดี แม่ก็เลยไปผ่าออกครับ เราก็คิดว่ารีบๆผ่าดีกว่า ซึ่งพอตอนผ่าก็เกิดปัญหาเพราะด้วยความที่ก้อนมันใหญ่มาก ไทรอยด์มันอยู่รอบๆ หลอดลม พอมันโตมันก็บีบรอบๆหลอดลม ที่ผ่านมาแม่หายใจได้แค่ 40 เปอร์เซ็นต์ของคนทั่วไป แต่แม่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวล และพอไปผ่าออกมาก็ต้องเอาท่อมาดามหลอดลมไว้ มันมีอะไรที่น่าเป็นห่วงหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็โอเคแล้ว โชคดีที่อาจารย์หมอเก่ง ดูแลแม่ดี ตอนนี้ก็เหมือนคนที่ผ่าไทรอยด์ทั่วไป ต้องดูแลเรื่องฮอร์โมน เรื่องแคลเซียม ทุกอย่างโอเคแล้ว เหลือเสียงแหบนิดหน่อย





ต้องให้คนในครอบครัวเช็กสุขภาพประจำปีอย่างละเอียดทุกครั้งเลยไหม ?
คือพ่อกับแม่เช็กอยู่แล้วครับ จะตรวจร่างกายเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่พอมีเรื่องไทรอยด์ของแม่มา จากนี้ก็ต้องเช็กเรื่องฮอร์โมน เรื่องแคลเซียมเพิ่มขึ้น

ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษไหม ?


ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องดูแลเป็นพิเศษนะครับ ต้องกินฮอร์โมนทุกวัน เพราะพอไทรอยด์ออกไปแล้วร่างกายก็ไม่มีตัวสร้างฮอร์โมน ต้องกินแคลเซียมเพิ่ม



จะมีโอกาสกลับมาเกิดก้อนเนื้ออีกไหม ?
ไม่น่าแล้วครับ เพราะตอนนี้แม่ไม่มีต่อมไทรอยด์แล้ว



เราไปเฝ้าดูแลคุณแม่ใกล้ชิดแค่ไหน ?
ก็ไปเฝ้าตลอด แต่ว่าไม่ได้อยากบอกให้ใครรู้เท่าไหร่



เต้ยไปเยี่ยมบ้างไหม ?
เต้ยไปเยี่ยมครับ จริงๆ เราก็เครียดเพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกของแม่เลย แต่มันก็เป็นอะไรที่ต้องเกิด วันนั้นหมอก็มีขอดูคอของน้องสาว ก็ถูกทักว่าคอใหญ่นะ น้องก็ใจแป้ว หมอเลยให้ไปเอกซเรย์ทิ้งไว้ ส่วนตัวผมยังไม่เคยไปเช็กอะไรแบบจริงจังเลย



ถามถึงทริปนิวซีแลนด์หลายคนมองว่าเป็นทริปขอแต่งงาน ?
เดี๋ยวๆ ก็สนุกดี สวยมากๆ บรรยากาศดีมากๆ ครับ

วิวที่นิวซีแลนด์ กับ เต้ย อะไรสวยกว่ากัน ?
ทั้งคู่ครับ (ยิ้ม) วิวสวย เต้ยน่ารัก



มีนั่งเฮลิคอปเตอร์ด้วย ?
ผมไม่ได้เป็นคนวางแผนครับ คือมันเป็นทริปที่เป็นของขวัญวันเกิดของเขา เราก็ขอเป็นคนวางแผนทั้งหมด แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ป๋าจัดหนักให้คนเดียว เพราะเต้ยเขาไม่ยอมให้ออกค่าใช้จ่ายให้คนเดียว เจตนาเราคือด้วยความที่มันเป็นของขวัญก็อยากจะจัดให้ทุกอย่าง แต่เต้ยเขาก็ไม่ยอมหรอก มีออกนู่นออกนี่บ้างเหมือนกัน

เรื่องธีมชุดมีการนัดแนะกันก่อนไหม ?
ไม่ได้นัดครับ คือมันไปนาน จะไปเตรียมชุดอะไรขนาดนั้นก็ไม่ได้ กระเป๋ามันไม่พอ

ไปกันสองคนเป็นยังไงบ้าง ?
ก็ดีครับ ตอนแรกแอบเป็นห่วงว่าไปสองคนจะตีกันตายไหมเนี่ย แต่จริงๆแล้วไม่เลย เป็นทริปที่ดีมากๆ แฮปปี้ครับ เราก็เข้ากันได้แหละ มันเป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันสองคนจริงๆ มันได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างในตัวซึ่งกันและกัน ตัวผมมีความสุขมากๆ ครับ



มีโมเมนต์ประทับใจที่อยากจดจำไว้ไหม ?
จริงๆ แค่ช่วงเวลาขับรถระหว่างทาง ผมก็แฮปปี้มากๆ แล้ว

ใครดูแลใครมากกว่ากัน ?
ดูแลซึ่งกันและกันครับ

ภาพนั่งคุกเข่าอีกนิดเดียวตะเหมือนซีนขอแต่งงานแล้ว ?
ไม่ได้นั่งคุกเข่า นั่งชันเข่า ไม่ใช่ๆ คือไม่มีใครตั้งใจอะไรเลย ไปกันสองคนไม่มีคนถ่ายรูปให้ เราก็เลยต้องตั้งกล้องไว้บนโขดหิน และเต้ยเขานั่งอยู่ตรงนั้น เราก็ไม่ได้อยากยืนค้ำหัว เลยไปนั่งอยู่ข้างล่างตรงนั้นเฉยๆ



ไม่มีแอบขอแต่งงานใช่ไหม ?
ไม่มี ยังๆ

ทริปหน้ามีลุ้นไหม ?
คือตัวเราเองก็ 30 แล้ว ก็มีคิดไว้บ้างแหละครับ แต่ ณ ตอนนี้ยังอยากจะเรียนรู้กันไปอีก เรายังอยากจะทำตัวเองให้มันมั่นคงกว่านี้ด้วย

คนนี้คือใช่สำหรับเราแล้วใช่ไหม ?
ครับ



คำนวณเรื่องเงินแต่งที่จะไปขอเขาไว้หรือยัง ?
คือไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ถึงจะแต่งงาน เราแค่อยากมีหน้าที่การงาน หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้มั่นคงและเรารู้สึกว่าตัวเราพร้อมแล้ว

ทำไมถึงคิดว่ายังไม่มั่นคง พราะคนอื่นคิดว่าเรามั่นคงและมีความพร้อมมาก ?
เพื่อนๆ ก็พูดกันแบบนี้ว่า ถ้านี่ยังไม่พร้อมแล้วเมื่อไหร่จะพร้อม หลายๆคนก็บอกถ้าพูดแบบนี้มันไม่มีวันพร้อมหรอก แต่สำหรับเรา เรารู้ใจตัวเองที่สุดว่าเราอยากให้เรามั่นคงกว่านี้ เพราะถ้ามันมีเรื่องแบบนั้นขึ้นมา เราก็ต้องเป็นผู้นำให้ได้ ต้องดูแลทั้งตัวเราเอง ดูแลครอบครัวเรา ดูแลครอบครัวเขาให้ได้ มันเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ครับ



วางไว้อีกสักกี่ปี ?
ไม่ได้วางเลยครับ

หรือเพราะเรายังหวงความโสด ?
ไม่หวงเลย ถ้าพร้อมก็พร้อม มันก็ไม่ใช่แค่ความพร้อมของเราด้วย มันเป็นความพร้อมของเราทั้งคู่ด้วย มันอาจจะไม่ใช่แค่ความพร้อมในเรื่องงาน ในเรื่องฐานะของเรา แต่มันเป็นเรื่องความพร้อมของคนสองคน

ได้คุยเรื่องนี้กับเต้ยหรือยัง ?
มีบ้างครับ แต่เขาก็ยังไม่ได้คิดเหมือนกัน ซึ่งเอาจริงๆ เราอายุเท่านี้ก็มีคิดเรื่องอนาคตไว้บ้างว่าจะไปทางไหน ยังไงดี