หงอเลย ! "เวียร์" ยิ้มๆ รับกลัว "เบลล่า" หลังปล่อยโป๊ะเรื่องนาฬิกา - ไม่หวั่นติดภาพบทชายรักชาย

2019-10-30 11:20:48

หงอเลย ! "เวียร์" ยิ้มๆ รับกลัว "เบลล่า" หลังปล่อยโป๊ะเรื่องนาฬิกา - ไม่หวั่นติดภาพบทชายรักชาย

Advertisement

นอกจากบทพระเอกมาดเข้มที่ต้องเล่นคู่กับนางเอกสวยๆ มาตลอดแล้ว เขาคือนักแสดงมืออาชีพอีกคนที่มักได้รับบทบาทที่แตกต่างจากตัวจริงในโลกภาพยนตร์ ซึ่งบทบาทที่เขาได้รับนั้น นักแสดงน้อยคนนักจะสามารถเข้าถึงจิตวิญญาณและสวมคาแรกเตอร์ได้แนบเนียน จนทำให้แฟนๆ อินไปตามเรื่องราวได้ แต่งานนี้เขาผ่านบททดสอบนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น "เวียร์ ศุกลวัฒน์" กับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “ดิว ไปด้วยกันนะ” เปิดใจถึงการกลับมารับบทชายรักชายอีกครั้ง พร้อมกล่าวถึงดราม่าขำๆ เรื่องนาฬิกาของเพื่อนที่ถูกแฟนสาว "เบลล่า" จับได้ว่าซื้อมาเอง โดยเวียร์ได้เล่าว่า



รับบทชายรักชายบ่อยมากขึ้นเลย ?



“จริงๆ แล้วเราไม่ได้รับแนวนี้หรือแนวนั้นอะไร ผมว่าหนังรักมันคือสิ่งที่สวยงาม ผมไม่ได้แบ่งแยกหรืออะไรหรอกครับ”

หลายคนชื่นชอบพอเรามาเล่นแนวนี้ ?
“ครับ จริงๆ แล้วเรื่องนี้จะไม่เห็นผมแบบเรื่องก่อนๆ นะ (พอเข้าใจนะ) บอกแค่นี้ แน่นอนว่ามันจะไม่ติดภาพแบบเรื่องก่อนๆ มันจะมีเรื่องราวที่ต้องเล่าผมพูดมากไม่ได้ ใครที่คาดหวังว่า พี่เวียร์จะต้องอู้หู…อยากให้รอดูดีกว่า ว่าจะเห็นหรือไม่เห็น ผมไม่อยากสปอยล์เยอะ อยากให้เปิดใจดูหนังทุกๆ แนว ไม่อยากให้แบ่งแยก อะไรที่คือการทำงาน หรืออะไรที่คนไทยสร้างขึ้นมา เราควรจะช่วยกันสนับสนุนครับ”





ถ้ามีแนวนี้มาอีกจะรับไหม ?
“รับครับ ผมรับทุกแนว ถ้ารู้สึกว่าเป็นบทที่ท้าทายความสามารถของเราและเป็นบทที่เรายังไม่เคยเล่น ผมสามารถรับได้ครับ”

เป็นขวัญใจ LGBT ไปแล้ว ?


“ขอบคุณนะครับที่ต้อนรับผมเป็นไอดอลไปแล้ว (ยิ้ม) ก็ดีครับผมก็เล่นได้ทุกแนว จะเล่นแนว แมนๆ คอมเมดี้ บู๋ๆ ก็ได้ ทุกอย่างมันคือการแสดงมันทำให้เราได้ฝึกฝน”



กลัวคนติดภาพไหม ?
“ไม่กลัวครับ”



หรือติดใจบทนี้ ?
“(ยิ้ม) ถ้าผมติดใจคงแย่แล้วครับ เพราะผู้ชายแบบนี้คงหาไม่ได้อีกแล้ว”



สรุปนาฬิกายืมเพื่อนมาหรือซื้อเอง ?
“ผมซื้อเอง ผมซื้อๆๆ”



เหมือนเบลล่าเข้าไปคอมเมนต์ ไหนว่ายืมเพื่อนมา ?
“บางทีพอเราซื้อของที่มันแพงอะนะ เราก็ต้องบอกว่ายืมเพื่อนมาใส่เล่นๆ ก่อน หรือไม่ก็แบบเพื่อนมีเยอะ เลยเอามาลองว่ามันเข้ากับเราไหม แต่จริงๆ คือซื้อครับ”

ทำไมตอนนั้นถึงตัดสินใจบอกว่ายืมเพื่อน หรือเพราะไม่อยากมีปัญหา ?
“(หัวเราะ) กวนๆ ไปครับ แต่เขาก็พอจะมีกลิ่นรู้แหละว่า ซื้ออีกแล้ว”




แสดงว่าเขาก็ค่อนข้างควบคุมการใช้เงินของเราอยู่เหมือนกัน ?
“ไม่ครับ จริงๆ เขาสนับสนุนครับ ด้วยความที่บางอย่างที่ผมซื้อ เช่น ที่ดิน พวกที่สามารถเก็บแล้วสร้างมูลค่า ผมก็มีซื้อไว้เยอะครับ บางทีมีอะไรก็ขาย เหมือนเอาใช้ฟรี อย่างซื้อมาราคาเท่านี้ เราก็ขายราคาที่ซื้อ น้องก็แฮปปี้ เพราะมันเหมือนเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ดีกว่าไปทำอย่างอื่น เมื่อก่อนผมซื้อรถเยอะ รถมันก็ลดอะเนอะ แต่อะไรที่มันเป็นพวกการลงทุนเขาก็สนับสนุน อย่างตัวเขาเองก็แอบมีกระเป๋าเหมือนกัน ผมรู้ๆ”

พอความจริงเปิดเผย โดนดุไหม ?
“เขาก็บอก ว่าแล้ว”



ตัวเราเองมีแนะนำเขาให้ซื้ออะไรลงทุนไหม ?
“จริงๆ ต่างคนต่างแนวครับ อย่างผมเมื่อก่อนไม่รู้ว่าทำไมต้องซื้อกระเป๋า เพราะผมไม่รู้ว่าบางทีมันคือการลงทุน เพราะผมเห็นเขาขายเพื่อนๆ ขายคนที่อยู่ในกลุ่มแล้วได้ราคาดี มันก็เหมือนกันกับเรา เพราะเขาก็รู้ว่าทำไมพี่เวียร์ชอบซื้อมอเตอร์ไซค์วินเทจ หรือซื้อของอะไรพวกนี้ที่ผู้ชายชอบ มันก็คือการลงทุน”

ปกติเวลาจะซื้ออะไรต้องปรึกษาก่อนไหม ?
“ถ้าเป็นอะไรที่เขาไม่มีข้อมูล เราก็จะซื้อมาก่อนแล้วค่อยบอกเขา แต่ถ้าเขาน่าจะรู้ว่าเป็นยังไง เราก็ต้องขายดีหรือไม่ขายดีต้องปรึกษากันก่อน ช่วยกันคิด ถ้าซื้อมาจะช่วยลงทันได้ไหม”

เหมือนเป็นการวางแผนอนาคตไปในตัว ?
“มันก็ต้องช่วยกันคิดครับ บางทีคิดคนเดียวมันก็หลายหัวดีกว่าหัวเดียวอ่ะ”

แอบมีการฉายแววเรื่องการควบคุมงบที่ใช้บ้างหรือเปล่า ?
“ไม่ๆ”



ไม่เข้าสมาคมว่าที่คนกลัวภรรยาเนอะ ?
“โนๆ ผมว่าเขาเข้าใจ ไม่เชิงกลัวมีแค่บางอย่าง ทำไมต้องทำให้ผมดูเป็นแมวเมี๊ยวยังไงก็ไม่รู้”

ยืนยันว่าไม่กลัว ?
“กลัวๆ (ยิ้ม) จบๆ ไป กลัว”