“อนุทิน” ยันแบน 3 สารพิษเริ่ม 1 ธ.ค.62 ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ไม่เลื่อนออกไปอีก 6 เดือน
จากกรณีสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐประกาศว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี)กับสินค้าไทยคิดเป็นมูลราคา 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ เฉียด 40,000 ล้านบาท โดยสินค้าที่อยู่ในรายการที่จะถูกตัดสิทธิ์จีเอสพีตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 2563 มีมากถึง 573 รายการ โดยอ้างว่าไทยล้มเหลวในการจัดการสิทธิที่เหมาะสมให้กับแรงงานตามหลักสากลนั้น
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีการโยงมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายยกเลิก 3 สารพิษ เป็นเหตุให้ประเทศไทยถูกระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) ว่า ขออย่านำเรื่องดังกล่าวเชื่อมโยงกับกรณีที่สหรัฐฯ สั่งยกเลิกจีเอสพีกับประเทศไทย ต้องแยกเป็นคนละเรื่องกัน ทั้งนี้การแบนสารพิษนั้น ล้วนทำเพื่อให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดีปราศจากสารพิษ และไม่ให้มีสารพิษปนเปื้อนอยู่ในชีวิตประจำวัน ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องใดต้องกังวล การดำเนินการแต่ละอย่างมีขั้นตอนที่ต้องรายงานต่อนายกรัฐมนตรีให้รับทราบเป็นระยะ
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มเกษตรกรเตรียมยืนร้องศาลปกครอง นายอนุทิน ตอบว่า เป็นสิทธิ์ของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย แต่ยืนยันว่าขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามข้อมูลที่ได้รับ เพื่อดูแลประชาชนให้ปลอดภัยจากสารพิษ เมื่อถามถึงกระแสข่าวเรื่องมีข้อเสนอให้ขยายเวลาการเริ่มต้นแบนสารพิษไปอีก 6 เดือน จากที่ควรเริ่มต้นในวันที่ 1 ธ.ค. 2562 เป็นให้แบนในช่วงกลางปีหน้า นายอนุทิน ยืนยันว่า มันชัดเจนอยู่แล้ว ไม่สามารถทำได้เนื่องจากมีมติจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายชัดเจนแล้ว คณะกรรมการนี้ก็อยู่ภายใต้กฎหมาย เรื่องที่มันเกี่ยวกับสุขภาพ จะรอไม่ได้ สารพิษดังกล่าวไม่ได้อยู่แค่เพียงในผักผลไม้เท่านั้น แต่มีอยู่ทุกที่ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน