ฮ่องกงยอมถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นทางการ

2019-10-24 09:40:15

ฮ่องกงยอมถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นทางการ

Advertisement

สภานิติบัญญัติของฮ่องกง ถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นต้นตอให้เกิดการชุมนุมประท้วงรุนแรงยืดเยื้อมานานหลายเดือน ออกจากวาระการพิจารณาอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันพุธ โดยร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะเปิดทางให้ฮ่องกงส่งตัวผู้ต้องสงสัยในคดีอาญาไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ กระตุ้นให้เกิดความโกรธแค้นเมื่อรัฐบาลฮ่องกงเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประท้วงจำนวนมากหลั่งไหลออกสู่ถนน และรัฐบาลต้องประกาศระงับร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นการชั่วคราวก่อนหน้านี้

แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ยังคงเดินหน้ประท้วงต่อเนื่อง ซึ่งลุกลามกลายเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดสำหรับฮ่องกง ตั้งแต่อดีตอาณานิคมของอังกฤษ กลับคืนสู่การปกครองของจีนในปี 2540 นอกจากนี้ การประท้วงรุนแรงยังถือว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ต่อบรรดาผู้นำจีนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งกล่าวหากลุ่มผู้ประท้วงว่า เป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่อันตราย และกล่าวหามหาอำนาจต่างชาติว่าอยู่เบื้องหลังการประท้วง

ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะอนุญาตให้ฮ่องกงส่งตัวผู้ต้องสงสัยก่อคดีอาญาไปยังสถานที่ที่ฮ่องกงไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งรวมทั้งจีนแผ่ดินใหญ่, ไต้หวันและมาเก๊า แต่ผู้คัดค้านกฎหมายฉบับนี้ กลัวว่า การส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในจีนนั้น จะทำให้ผู้ต้องสงสัยถูกคุมขังตามอำเภอใจ และการพิจารณาคดีไม่ยุติธรรม




การถอนร่างกฎหมายฉบับนี้อย่างเป็นทางการ ถือว่าสอดคล้องกับหนึ่งในข้อเรียกร้องสำคัญจำนวน 5 ข้อของกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งมักตระโกน “เรียกร้อง 5 ข้อ ไม่ยกเว้นแม้แตข้อเดียว” ในการประท้วงตามท้องถนน ส่วนอีก 4 ข้อประกอบด้วย ไม่เรียกผู้ประท้วงว่าเป็นกลุ่มก่อการจลาจล, นิรโทษกรรมกลุ่มผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม, ตั้งคณะกรรมการสอบสวนอิสระ กรณีการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงอย่างป่าเถือนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และส่งเสริมการจัดการเลือกตั้งอย่างสากล

ขณะที่ นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ยืนยันว่า ข้อเรียกร้องอื่น ๆ ของกลุมผู้ประท้วง อยู่นอกเหนือการควบคุม



การประท้วง ซึ่งเริ่มต้นด้วยความสงบ แต่มักจบลงด้วยการก่อความรุนแรง เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรง ที่ทำลายทรัพย์สินห้างร้านต่าง ๆ และขวางระเบิดเพลิงเข้าใส่กองกำลังรักษาความมั่นคง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ฉีดน้ำแรงดันสูง, แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง ตอบโต้ แต่ก็มีการใช้กระสุนจริงในบางโอกาส และมีวัยรุ่นอายุ 18 ปี ถูกตำรวจยิงด้วยกระสุนจริงเข้าที่หน้าอก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา