ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดระยะที่ 3 วอนขอชีวิต

2017-08-13 16:40:46

ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดระยะที่ 3 วอนขอชีวิต

Advertisement

คนไข้ประกันสังคมวอนขอชีวิตหลังป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์ ระยะที่ 3 แต่สิทธิ์ประกันสังคมครอบคลุมยารักษาแค่ระยะแรก ล่าชื่อผ่าน change.org หวัง สปส.ให้ผู้ป่วยเบิกยาได้ทุกตัวทุกระยะโรค ด้านประธานชมรมผู้ป่วยฯ เผยทั่วประเทศมีผู้ป่วยประมาณ 3,000 คน ยาแพงตกเม็ดละ 1,200 บาท ขณะที่โฆษก สปส. ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน  

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ฐิชารัศม์ มณีศรีธนนท์ คนไข้ประกันสังคม ได้ออกมาวิงวอนขอชีวิต หลังพบเป็นมะเร็งเม็ดเลือดระยะที่ 3 โดยรณรงค์ผ่าน https://www.change.org ระบุว่า ได้ตรวจพบว่า เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์และโรคได้ลุกลามมาเป็นระยะสุดท้ายคือระยะที่ 3 ซึ่งโรคนี้จริงๆ แล้วมียาที่สามารถรักษาถึง 3 ชนิดด้วยกัน แต่ปรากฏว่าสิทธิ์ประกันสังคมสามารถอนุมัติให้เฉพาะคนที่เป็นระยะแรกเท่านั้น ดังนั้นก็หมายถึงว่าแม้แต่มียาที่ดีที่สามารถรักษาได้ แต่ดิฉันก็ไม่มีปัญญาได้ใช้มันเพราะประกันสังคมได้ตั้งกฎที่ตลกมากคือให้ยารักษาคนที่เป็นระยะแรก แต่ระยะที่ 2 และ ระยะที่ 3 ไม่ให้เบิกยา อยากทราบว่าสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะปล่อยให้ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบมาเป็นเวลาสิบๆ ปีตาย เพราะไม่ได้รับการรักษาหรืออย่างไร ดิฉันเขียนเรียกร้องในครั้งนี้เพื่อตัวดิฉันเองและเพื่อนๆ ที่เป็นโรคเดียวกันอีกหลายคน หากวันหนึ่งโรคกำเริบเป็นระยะที่ 2 หรือ ระยะที่ 3 คุณจะปล่อยให้ตายไปเลยหรือไงทั้งๆ ที่ยาที่รักษานั้นสามารถรักษาได้ผลดีมากๆ

“ดิฉันและเพื่อนๆ ผู้ป่วยทุกคนขอวิงวอน ขอแรงจากโลกออนไลน์ทุกท่านช่วยสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการแก้ไขกฎระเบียบตรงนี้เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเบิกยาได้ทุกตัวแม้ว่าจะเป็นระยะไหนก็ตาม เพราะดิฉันคิดว่าแม้แต่ 1 เปอร์เซ็นต์รอดของชีวิตดิฉัน มันก็คือชีวิต ดิฉันขอเรียกร้องชีวิต ขอความเมตตาให้ดิฉันได้มีชีวิตและได้รับยารักษาชีวิต เหตุผลก็เพราะว่าดิฉันได้ส่งเงินสมทบมาตั้งนาน ตั้งแต่ปีที่เริ่มทำงานปี 2548 จนถึงปัจจุบันปี 2560 เป็นเวลา เกือบ 12 ปี เมื่อยามเจ็บป่วยก็ควรได้รับสิทธิ์การรักษาที่ดีด้วย” น.ส.ฐิชารัศม์




ด้านนายจีระพล ไชยมงคล ประธานชมรมผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า น.ส.ฐิชารัศม์ ออกมาเรียกร้องเพราะอยากให้มีการแก้ไขกฎระเบียบตรงนี้ เพื่อผู้ป่วยรายอื่นสามารถเบิกยาได้ ไม่ใช่ว่าป่วยแล้วต้องทำคีโมอย่างเดียว เพราะมียาที่รักษาได้ อย่างตนป่วยมา 17 ปีกินยามาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน

นายจีระพล กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยโรคนี้ทั่วประเทศมีประมาณ 3,000 คน พบทั้งผู้หญิงผู้ชาย ใกล้เคียงกัน 70% ใช้สิทธิ์บัตรทอง 15% สิทธิ์ประกันสังคม และอีก 15% สิทธิ์ข้าราชการ สาเหตุของโรคไม่มีใครรู้ แต่พบว่า โครโมโซมคู่ที่ 9 กับ 22 สลับคู่กัน ทำให้ไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดขาวมากผิดปกติ อาการของคนไข้ คือ เลือดกำเดาไหล เขียวจ้ำ ม้ามโต ปวดแน่นจุกหน้าท้อง ตรวจพบเม็ดเลือดขาวเยอะผิดปกติ จากคนปกติเม็ดเลือดขาวจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 10,000 เซลล์/ลบ.มม. แต่ถ้าคนเป็นโรคนี้พบถึงหลักแสนเซลล์/ลบ.มม.



“โรคนี้มียารักษา แต่ยาค่อนข้างแพง ตกเม็ดละประมาณ 1,200 บาท โดยไม่ต้องให้ยาเคมีบำบัด ถ้าเป็นระยะแรกคนไข้จะกินประมาณ 4 เม็ด แต่ถ้าเข้าระยะที่ 2-3 อาจต้องกินวันละประมาณ 6 เม็ด การรณรงค์ผ่าน https://www.change.org ก็หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกคน จะได้นำรายชื่อทั้งหมดไปมอบให้ประกันสังคม เพราะอยากให้มีการดูแลผู้ป่วย” นายจีระพล กล่าว

ขณะที่ น.ส.อำพันธ์ ธุววิทย์ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า อยากได้ข้อเท็จจริงกว่านี้ จึงอยากให้ผู้ป่วยประสานมาที่สำนักงานประกันสังคม หรือติดต่อไปยังสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ จะได้รู้ว่าคนไข้มีสิทธิ์ประกันสังคมที่ รพ.ใด และได้รับการรักษาถูกต้องหรือไม่ เพราะคนเป็นโรคแบบนี้จิตใจแย่พออยู่แล้ว