คนร้ายลอบวางระเบิด กลางฝูงชนที่กำลังประกอบพิธีละหมาดประจำสัปดาห์วันศุกร์ ภายในมัสยิดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนันกาฮาร์ ทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน ระเบิดทรงอานุภาพถึงขั้นหลังคามัสยิดพังถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 62 ศพ บาดเจ็บอีกมากกว่า 100 คน
เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดกล่าวอ้างความรับผิดชอบ แต่กลุ่มตาลีบันประกาศแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กลุ่มตาลีบันอัฟกานิสถาน และกลุ่มไอเอส เป็น 2 กลุ่มหลัก ที่ก่อความไม่สงบในเขตจังหวัดนันกาฮาร์ และอีกหลายจังหวัดทางภาคตะวันออกและภาคใต้
เหตุโจมตีเกิดขึ้น 1 วัน หลังจากองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เปิดเผยรายงานล่าสุด จำนวนพลเรือนชาวอัฟกันที่เสียชีวิต จากการก่อความไม่สงบในประเทศ สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในช่วงฤดูร้อนปีนี้
รายงานของยูเอ็น ระบุว่า พลเรือนอัฟกันเสียชีวิตจากการโจมตี 1,174 ราย ระหว่างเดือน ก.ค. – ก.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นช่วงไตรมาสที่เสียชีวิตมากที่สุด ตั้งแต่ยูเอ็นเริ่มบันทึกสถิติเมื่อ 10 ปีก่อน
อัตตาอัลเลาะห์ โคห์กยานี โฆษกผู้ว่าการจังหวัดนันกาฮาร์ เผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเบื้องต้นอยู่ที่ 62 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 100 คน คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีประชาชนที่ติดอยู่ในซาอาคารพังถล่มอีกหลายคน มัสยิดที่เกิดเหตุอยู่ในอำเภอฮัสกา มินา ประมาณ 50 กม. จากเมืองจาลัลอาบัด เมืองเอกของจังหวัด.