กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยผลตรวจ รพ.เอกชน หลังญาติร้องแพทย์วินิจฉัยโรคพลาดจนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต พบมาตรฐานสถานพยาบาลถูกต้อง ส่วนมาตรฐานการรักษาพยาบาลของแพทย์ได้ส่งเรื่องให้แพทยสภาตรวจสอบต่อ
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชน จากกรณีที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์ประจำโรงพยาบาลเอกชนว่า ทำการวินิจฉัยโรคผิดพลาดจากโรคหัวใจตีบเป็นโรคกระเพาะ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้จัดการวิศวกรไฟฟ้าบริษัทเอกชน เสียชีวิต และเมื่อไปขอเอกสารเวชระเบียน ทางโรงพยาบาลอ้างว่าต้องใช้เวลา 7 วันนั้น เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่จากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และกองกฎหมาย สบส.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้อง เอกสารเวชระเบียน และเอกสารทางการแพทย์ พร้อมตรวจสอบมาตรฐานสถานพยาบาลตามบทบาทหน้าที่ของ สบส.ในด้านสถานที่ บุคลากร อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งไม่พบว่ามีการกระทำผิดมาตรฐานแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดความชัดเจน และเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย สบส.ได้ยื่นเรื่องถึงแพทยสภา ให้พิจารณาตรวจสอบว่าในขณะที่เกิดเหตุแพทย์ได้ให้บริการแก่ผู้ป่วยทั้งการวินิจฉัย การรักษาพยาบาล และการจำหน่ายผู้ป่วย อย่างถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลการพิจารณาจากแพทยสภา ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำที่ผิดไปจากมาตรฐาน สบส.ก็พร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ญาติผู้เสียชีวิตแจ้งว่าได้ร้องขอเอกสารเวชระเบียนจากโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งกลับมาว่าต้องใช้เวลา 7 วันนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ประสานไปยังโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวเพื่อรับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งทางโรงพยาบาล ได้แจ้งว่าส่งมอบเอกสารทางการแพทย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตตามที่ได้รับการร้องขอแล้ว นอกจากนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอผลการชันสูตรศพจาก รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต เพื่อนำมาเป็นข้อมูลเพิ่มเติมในการพิจารณาตรวจสอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป