ศาลสั่งจำคุก "เสี่ยท็อป" 6 เดือนไม่รอลงอาญา (คลิป)

2019-10-18 13:10:54

ศาลสั่งจำคุก "เสี่ยท็อป" 6 เดือนไม่รอลงอาญา (คลิป)

Advertisement

ศาลสั่งจำคุก "เสี่ยท็อป" 6 เดือนไม่รอลงอาญา คดีเช็คเด้งซื้อคลินิกเสริมความงาม

จากกรณี น.ส.ดา (นามสมมติ) อายุ 30 ปี พริตตี้สาว ถูก “เสี่ยท็อป” อายุ 50 ปี นักธุรกิจหมื่นล้าน รู้จักเมื่อวันที่ 15 มี.ค.2562 แค่เพียง 1 วันคือวันที่ 16 มี.ค.2562 ก็ขอแต่งงาน วันที่ 26 มี.ค.ขอจดทะเบียนสมรส และจัดงานแต่งงานสุดหรูหราที่โรงแรมใน จ.บุรีรัมย์เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2562 เสียค่าใช้จ่ายไปกว่า 5 ล้านบาท ต้องเป็นหนี้สินจำนวนมาก ทั้งเป็นหนี้โรงแรมที่จัดงาน 383,000 บาท หนี้ออแกไนเซอร์จัดงาน 2,680,000 บาท จนเธอต้องขอจดทะเบียนหย่าไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา และออกมาเปิดเผยเรื่องราวสู่สังคมให้ได้รับทราบ ขณะที่ “เสี่ยท็อป” ดูเหมือนงานจะเข้าแล้ว เพราะถูกขุดหลักฐานมาแฉเพียบ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวไม่สะทกสะท้าน เดินทางไปฮ่องกง ตำหนิสื่อที่นำเสนอข่าว แถมให้สัมภาษณ์ว่ากลับมาพร้อมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมาเสี่ยท็อปเดินทางกลับจากฮ่องกงที่สนามบินดอนเมือง ได้ถูกตำรวจควบคุมตัว เนื่องจากถูกออกหมายจับตั้งแต่ปี 2559 หลบหนีไม่มาขึ้นศาลคดีเช็คเด้ง

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 ต.ค. ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ นายสุรพล สินธุนาวา ทนายความ นายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือ เสี่ยท็อป ออกมาเปิดเผยว่า ศาลได้มีคำสั่งจำคุกเสี่ยท็อป เป็นเวลา 6 เดือน ไม่รอลงอาญาโดยไม่สามารถอุทธรณ์ได้ เพราะคดีขาดอายุความเนื่องจากเสี่ยท็อปไม่มาฟังคำพิพากษาและไม่ยื่นอุทธรณ์ภายในวันที่ 14 ธ.ค. 2559 และไม่สามารถเจรจากับผู้เสียหายให้ถอนฟ้องได้เนื่องจากเป็นคดีอาญา คดีจึงเป็นที่สิ้นสุด


ด้านคดีหลอกสาวแต่งงานจดทะเบียน มีการสมรสใหญ่โตที่ จ.บุรีรัมย์ หมดค่าใช้จ่ายไปกว่า 3.5 ล้านบาท แต่เสี่ยกลับเบี้ยวเงินไม่ยอมจ่ายนั้น ทนายความระบุว่า เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งความในคดีนี้ แต่หากมีการแจ้งความฟ้องร้องกัน เสี่ยท็อปบอกว่าเตรียมสู้คดีและฟ้องกลับเพราะมีพยานหลักฐานอยู่

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจากในวันที่ 29 พ.ค. 2557 น.ส.สุภาพรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ในคดีออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น โดยน.ส.สุภาพรณ์ ได้รับการติดต่อจากเสี่ยท็อป เพื่อที่จะขอซื้อคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง น.ส.สุภาพรณ์เป็นเจ้าของ โดยพูดสร้างความน่าเชื่อถือ พูดจาหว่านล้อมต่างๆ จนทำให้ น.ส.สุภาพรณ์ ตัดสินใจขายคลินิกให้กับ เสี่ยท็อปในราคา 8.5 ล้านบาท โดยที่เสี่ยท็อป ได้สั่งจ่ายเช็คให้กับ น.ส.สุภาพรณ์ ในราคา 4.5 ล้านบาท แต่หลังจากที่ น.ส.สุภาพรณ์ นำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน และหลังจากนั้น เสี่ยท็อปได้นำชื่อคลินิกไปใช้ในการแอบอ้าง หลอกลวงผู้อื่นในทางเสียหาย กระทั่งทำให้คลินิกของ น.ส.สุภาพรณ์ เสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก น.ส.สุภาพรณ์ จึงต้องการดำเนินคดีเสี่ยท็อปให้ถึงที่สุด เพื่อให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว จากนั้นได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกันในชั้นศาล และเสี่ยท็อปได้นำโฉนดที่ดินมูลค่า 1 ล้านบาท ชดใช้ค่าเสียหาย หลังจากที่ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาเสี่ยท็อปได้หลบหนีไม่มาขึ้นศาลแขวงพระนครเหนือ จึงถูกออกหมายจับลงวันที่ 14 พ.ย. 2559 ให้จำคุก 1 ปี รับสารภาพแล้วลดโทษเหลือ 6 เดือน