เปิดตัวคู่ชีวิต "ษา วรรณษา" คว้าใจพระเอกลิเก "อาท รณชัย" รักนี้มีบุญหนุนนำ

2019-10-14 14:25:33

เปิดตัวคู่ชีวิต "ษา วรรณษา" คว้าใจพระเอกลิเก "อาท รณชัย" รักนี้มีบุญหนุนนำ

Advertisement



ห่างหายจากหน้าจอทีวีไปบ้าง จนแฟนๆ ต่างบ่นคิดถึง กับอดีตนางงามผู้เคยโด่งดังเปรี้ยงปังคิวแน่นอย่าบอกใคร เธอหายไปไหน ตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ "ษา วรรณษา ทองวิเศษ" ล่าสุด เธอได้มาอัพเดตชีวิตปัจจุบันอันน่าสนใจ พร้อมเปิดตัวคู่ชีวิต "อาท รณชัย" พระเอกลิเกสุดหล่อที่คบหากันมานานถึง 4 ปีแล้ว แถมมีกิจการร้านทองเป็นของครอบครัวอีกด้วย ในรายการ เรื่องลับมาก (NO CENSOR) ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-14.50 น.  "ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" เป็นผู้ดำเนินรายการ 

คุณเจอกันได้ยังไง ?



ษา : คนนี้สายอาสาอยู่แล้ว คบกันปีนี้เข้าปีที่ 4 ค่ะทุกคนพลาดหมดเลย (หัวเราะ) คือก่อนหน้านั้นความรักดีบ้างไม่ดีบ้างสลับกันไป แล้วมีช่วงนึงช่วงพีค เราออกไปเป็นสายบุญไปเลย 





เกิดอะไรขึ้น ทำไมเป็นสายบุญ ?
ษา : พายุโหมกระหน่ำ ก่อนหน้าเจอเขาก็เจออะไรมาเยอะ จนทำให้เรารู้สึกว่าเราควรปลงเรื่องนี้แล้วมั้ย ไม่ต้องไปเสาะหาไขว่คว้า เมื่อก่อนแสวงหาตลอด มันต้องมีสิ คนเราไม่มีคู่มันตลกนะ นั่นเมื่อก่อน อาจจะเหงาได้เมื่อบั้นปลายชีวิต แต่พอเจอช่วงนึงที่ผ่านมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรารู้สึกว่าพอแล้ว

เกิดอะไรขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ?
ษา : มีเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาเยอะแยะมากมาย แต่เรื่องจบที่อินเดียเพราะษาไปถ่ายหนังเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เลยเหมือนชำระล้างจิตใจด้วยเลย ม้วนเดียวจบ เราก็เหมือนพนมมือตรงเขาพระศิวา ว่าจากนี้ไปถ้ามีก็มี ถ้าไม่มีลูกก็เดินสายนี้แหละ กะมาสายบุญเต็มที่ เขาก็สายบญเหมือนกัน เขาก็ไปแจก ไปบริจาคของและเกี่ยวกับงานพระพุทธศาสนา เจอกันตามงานรับรางวัลพระพุทธศาสนาบ้างและเป็นอาสา





คุณรู้จักกันมาก่อน ?
ษา : เขาเคยไปออกรายการที่ษาทำพิธีกรเพื่อโปรโมตเพลงใหม่

อาท : ซึ่งนานแล้ว หลักๆ มาเจอกันบังเอิญมากกว่า เจอกันตามสนามบิน เจอทุกครั้งเวลาอาทไปไหนจะเจอเขาเดินสวนกันทุกครั้ง เราไม่ได้ไปสถานที่เดียวกันนะครับ ไปคนละที่เจอกัน แล้วบางไฟทล์ได้ขึ้นเครื่องลำเดียวกัน 

ษา : แล้วมันแปลกตรงที่ว่าพอจะยิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ ความถี่ในการเจอก็มากขึ้นเท่านั้น



อาท : จนมันพีคตรงที่เราได้เล่นละครเรื่องเดียวกัน จนทำให้ความสัมพันธ์ ความรู้สึก เราได้ใกล้ชิดเขา ได้คุย เรารู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ผู้หญิงปกติธรรมดาทั่วไป เราไม่ได้บ้าเห่อดาราอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรที่เราชอบในความเป็นตัวเขา



ก่อนที่จะได้มาใกล้ชิดพูดคุยกัน คุณต้องรู้จากข่าว มองเขายังไง ?
อาท : ผมมองว่าชีวิตคนเราต้องผ่านเรื่องดีเรื่องร้าย ผมมองว่าเป็นอดีต ไม่ได้สนใจเลย อันนี้มีคนถามผมว่าคบกับวรรษา เขามีแฟนมีลูกแล้วนะทำไมยังมาชอบ จริงๆ ชอบคนอื่นก็ได้ เขาเป็นแม่ม่ายนะ มีคนทักผมครับ แต่ผมมองที่ตัวเขา และความดีของเขา เพราะอย่างแรกเขาจะเหมือนผมตรงที่ขี้สงสารและใจเป็นกุศลมากๆ ดูจากที่เราเคยไปถ่ายละครที่เชียงใหม่ มีเหตุการณ์นึงเกิดขึ้น เฮ้ย ผู้หญิงคนนี้ใจได้ ไปกับเราได้แน่ๆ เพราะเขามีใจที่คิดดีมากๆ



ษา : มันเป็นความจำเป็น ขับรถอยู่เขาก็เบรก เราก็ถามเบรกทำไม เขาบอกว่าอาทเห็นคนนอนอยู่ข้างทาง เราก็แล้วไง (หัวเราะ) เรายังไม่ได้เป็นอาสาในตอนนั้น ก็เป็นจุดนึงเหมือนกันที่เราเห็นว่าเขาไม่มีอาการลังเลที่จะช่วยเหลือคน เขาก็ถอยหลังแล้วลงเลย เจอคุณลุงนอนอยูู่ข้างทาง ตอนทุ่มสองทุ่มที่เชียงใหม่ แล้วจะทำยังไง อาทบอกให้ษาจับแล้วเรียกเขาให้รู้สึกตัว ดูอาการ



คุณอาทอายุน้อยกว่าษากี่ปี ?
อาท : สองสามปี 

อยู่สมาคมรักเด็กเหมือนเดิม ?
ษา : หนูไม่รู้ว่าเขาอายุ 37 (หัวเราะ) เขาก็ไม่รู้เราอายุ 40 นะ ถ้าอายุเยอะแล้วเด็กก็ไม่ใช่ เด็กเป็นเด็กก็เจอแล้ว เด็กเป็นผู้ใหญ่ก็เจอแล้ว แต่คราวนี้สายตาและใจเราเปิดกว้างขึ้น แต่ไม่ได้จะรวบรัดเร็วแบบนี้ ไม่ได้ตัดสินใจเร็วเหมือนเมื่อก่อน ก็ดูเขาเหมือนกัน ดูกันมาปีนึงกว่าจะบอกแม่ว่าหนูโอเค แม่ถามตลอดว่าคนนี้คืออะไร ก็บอกว่าดูไปก่อน เราขอดูนิดนึง ใจไม่ไหวนะถ้าจะเจ็บอีกรอบ ก็ไม่เอา



ใครจีบใครก่อน ?
อาท : เอาเป็นว่าเราบอกไม่ได้ว่าใครจีบใครก่อน มันเริ่มจากการไม่ได้จีบ เราคบมาโดยไม่ได้จีบกัน เหมือนคล้ายๆ น้ำซึมบ่อทรายมากกว่าเราเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันมา เขารู้เราเจออะไรมา เรารู้เขาเจออะไรมา ก็เจอปัญหามาพร้อมๆ กัน ก็รู้สึกว่าเขาเคียงข้างเรา ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าจะได้เป็นแฟนกันหรือเปล่า

ษา : เหมือนเพื่อนช่วยเพื่อน มีเรื่องไม่สบายใจก็มาปรึกษา พอเราไม่สบายใจเขาก็มานั่งฟัง 

อาท : มันพัฒนาไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เราเป็นนักแข่งรถ ที่อาทได้ใจเขามากๆ อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้สึกว่าเราคบกันเถอะ เพราะอาทไปแข่งรถ ชวงปีแรกก่อนคบ เราไม่มีผู้จัดการทีม เหมือนขาดอะไร ก็ต้องมีการแข่งขันใหญ่ ชิงแชมป์ที่บุรีรัมย์ ผมก็ลองชวนเขาว่าจะไปมั้ย เราอยากให้เขาไปดูเรา อยากให้รู้ไลฟ์สไตล์เรา เราก็เริ่มสนใจ อยากให้เขารู้จักตัวเรามากขึ้น จะให้เขารู้จักเราหมด แต่ไม่รู้เขาปิดกั้นอะไรเราหรือเปล่า แต่เราเปิดก่อน เราก็ชวนเขาไปลำบากลำบนและดูว่าเขาโอเคมั้ย จะรับเราได้หรือเปล่าที่เราต้องไปลำบาก สรุปเขาชอบครับ

ษา :
พี่บุ๋มจะรู้ดีว่าภาพในละครกับภาพเราสองคนไม่เหมือนกัน แต่ไม่รู้เขาลองใจอะไรหรือเปล่า แต่เราไปอยู่ตรงนั้น ตื่นตาตื่นใจ ได้ใส่อะไรที่เป็นสไตล์ตัวเองไม่ต้องนั่งสวย เราก็มีความสุขดี ไม่รู้ว่าอ๋อ แผนการเป็นแบบนี้ (หัวเราะ) 

อาท :
แผนการคืออ้อน อยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ



ษามีลูกมีคุณแม่ คุณเข้าทางคุณแม่ยังไง ?
อาท : ผมใช้ความเป็นผมนี่แหละ เข้าไปทำความรู้จัก อย่างแรกเลยผมไม่ได้มองว่าเขามีลูกติดหรือยังไงเพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าวันหนึ่งผมไปเจอคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ผมอาจมีลูกหรือไม่มีลูกก็ได้ แต่ด้วยตัวผมเองผมไม่อยากมีลูก ไม่อยากมีพันธะ อยากให้หมดไปเลยในชาตินี้ เรามาเจอเขา เขามีลูก เรามีความรู้สึกว่ามีอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมรักครอบครัวนี้ ทั้งที่เซย์เดย์ได้เจอาทแรกๆ ก็ไม่ได้แสดงอะไรที่รังเกียจเรา 

แอบลุ้นมั้ยเซย์เดย์จะต่อต้านมั้ย ?
อาท : นิดนึงครับ ก็จะถามเขาเลยช่วงแรกๆ แม่ว่ายังไงบ้าง เซย์เดย์จะโอเคมั้ย ก็ถามครับ



หายากเหมือนกันนะผู้ชายที่จะรับเราได้ในทุกๆ เรื่อง ?
ษา : ช่วงนั้นทำบุญเยอะมากไงถ้าเจอแล้วก็รักษาไว้แค่นั้นเอง อย่างแม่เขาจะเป็นคนต่อต้านเวลาษามีแฟน แต่แปลก คนนี้ไม่ ไม่รู้ว่าคนนี้เขาไลฟ์สดแล้วร้องเพลง มีวันนึงษารู้ว่าแม่ชอบเขาเพราะเสียงเขา วันนึงลงมาแม่ลงไลฟ์สดดังสนั่น แม่เป็นแฟนคลับ เป็นแม่ยก (หัวเราะ) เขาได้ตรงนี้

เซย์เดย์อายุเท่าไหร่ ?
ษา : 12 จะ 13 แล้ว

อาท : เขาโคตรเก่ง ที่ดูแลเด็กคนนึงที่ไอคิวสูงๆ และวันๆ อยู่ไม่สุข 

ษา : เซย์เดย์จะเป็นเด็กพิเศษ ประเภทออทิสติกขั้นหนึ่ง คือขั้นต่ำสุด แต่มีภาวะพ่วงด้วยคือเป็นแอลดี คือบกพร่องเรื่องการเรียนรู้ อ่านเขียน จะมีเรื่องสมาธิสั้น ซึ่งเด็กสมัยนี้เป็นเยอะมาก พอมันมารวมกันสามอย่างก็ค่อนข้างหนักพอสมควร ตอนขวบแรกถึงสี่ขวบ งานในวงการไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ออกไปเลย 4 ปี แต่ ณ วันนั้นที่ทิ้งวงการนี้ไปเลย ษาว่าคุ้ม เพราะลูกสามารถอยู่ในสังคมได้และเป็นเด็กน่ารัก ตอนเด็กๆ เขาเป็นเด็กขี้โมโห โมโหง่าย โมโหร้าย ไม่ทำใครแต่ทำร้ายตัวเอง กัดตัวเอง ข่วนหน้าตัวเอง แต่ ณ ตอนนี้คือนิสัยแบบนั้นไม่มีแล้ว และเรียนเก่ง

อาท : เขามีความน่ารักของเขา เหมือนเขารู้สึกว่าเขาไว้ใจ เขาจะกล้าเล่น บางทีก่อนนอนมากอดมาหอมแก้ม เราไม่เคยมองเขาเป็นคนอื่นเลย อาทเหมือนพ่อเขาเลย มองเขาเหมือนลูกเรา และเราก็รักเขา อยากให้สิ่งดีๆ กับเขา ให้ความสุขเขา ไม่รู้เขาขาดหรือเปล่าแต่เราอยากไปเติมเต็มทั้งครอบครัวและตัวเขา 




ทุกอย่างลงตัวมาก เคยคิดฝันจะได้เจอผู้ชายสักคน ที่เข้ามาในชีวิต แบบนี้ ?
ษา : ไม่เคยคิดค่ะ คิดแค่ว่าเป็นความรักที่ฉาบฉวย ถ้าอยู่ไม่ได้ก็คงเลิกกันไป แต่ครั้งสุดท้ายษาบอกแล้วว่าไม่เอา ถ้าไม่ใช่จะไม่ขอทดลองหรือทดสอบอะไรทั้งสิ้น ถ้าไม่ใช่จะไม่เอาเลย คิดไว้แล้ว เหมือนเป็นของขวัญที่เข้ามา ตอนแรกทุกคนไม่รู้ว่าเป็นแฟน เพราะคิดว่าเขาคือเพื่อนสาว (หัวเราะ)

อาท : คนคิดแบบนี้เยอะมาก

ษา : ด้วยความเสียงหวาน หน้าหวาน แม่หลง (หัวเราะ)



คุณทั้งคู่วางอนาคตอย่างไร จะแต่งงานมั้ย ?
ษา :
สำหรับษามันเกินเรื่องการแต่งงานไปแล้ว มันกลายเป็นส่วนหนึ่งกันและกันของสองครอบครัวไปแล้ว ถ้ามีงานอะไรก็ต้องชวน ต้องมี เป็นคนในครอบครัวของสองครอบครัวไปแล้ว พอมีคนถามเรื่องแต่งงาน มันเกินตรงนั้นไปแล้ว 

อาท : มุมของผม จริงๆ ถ้าเขาไม่ได้ผ่านการแต่งงาน อาทก็คิดว่าอยากทำให้เขา อยากทำให้ทุกอย่างถูกต้อง แต่พอมาถึงตรงนี้ เราไม่อยากไปซ้ำรอยเดิมเขา แต่เราอยากสร้างโลกของเราที่เป็นของเราเอง โดยไม่ไปซ้ำทางใคร เราขออยู่กับครอบครัวเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความรักที่เรามี เท่าที่เราจะทำให้เขาได้ ไม่มากก็น้อยเราจะไม่ทำให้เลวร้ายลง แต่เราจะทำให้เสมอต้นเสมอปลาย ดีขึ้นเรื่อยๆ มากกว่า



ไม่ได้ไปยุ่งกับคุณพ่อเขา ?
ษา : ถ้ามีเรื่องผลการเรียนลูกออกมา หรือมีเรื่องราวอัพเดตเขาก็จะรู้ด้วย เพราะษาส่งไลน์ส่วนตัว ส่งพวกผลการเรียน รูปลูกตอนวันแม่จะส่งให้เขาทั้งหมด

อดีตคุณบอกว่าจะไม่แตะเงินพ่อเซย์เดย์จะหาเงินเองทั้งหมด ?
ษา : ษาไม่ได้พูดเป็นประโยคแบบนั้น แต่ษาบอกว่าถ้าเมื่อไหร่ที่ษาเดือดร้อนและษารู้สึกว่าไม่ไหวแล้วจริงๆ ษาขอความช่วยเหลือจากพี่เป้นะ แต่ตอนนี้ษาโอเค สำหรับลูกหลายคนถามว่าไม่พาไปเจอพี่เป้เหรอ พี่เป้ไม่รับผิดชอบเหรอ ษาอยากจะบอกตรงนี้ว่าอย่าไปว่าพี่เป้ เพราะความสามารถแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ษาเลี้ยงลูกมาในแนวของษา ษารู้ว่าลูกษาต้องการอะไร เพราะฉะนั้นวิธีการให้เขาไปโดยเต็มใจและสมัครใจต้องถามเด็กก่อนว่าเด็กต้องการมั้ย ซึ่งเขาบอกแล้วว่าเขาอยากเจอ ษาก็พาไปเจอเรียบร้อยแล้ว เขาก็เอารูปลงอินสตาแกรม คนกดไลค์เป็นพัน ษาก็แฮปปี้ ต่อมาษาก็ไม่ได้ถามลูกอีกว่าอยากไปเจออีกมั้ย ถ้าลูกเอ่ยษาจะพาไปแค่นั้นเอง

ตามใจเด็ก ?
ษา : ส่วนเรื่องเงินษาก็ไม่บังคับว่าต้องจ่ายเท่านั้นเท่านี้ ไม่ค่ะ เพราะษารู้สถานะของคุณพ่อเขาอยู่ ต่างคนต่างดูแลส่วนตัวเอง ไม่ทรมานซึ่งกันและกันต่อดีกว่า เอาที่สบายใจ



อยากมีน้องให้เซย์เดย์มั้ย ?
ษา : ไม่ไหวแล้วค่ะ เพราะรู้ว่าระบบร่างกายตัวเองไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ สองเดือนก่อนถุงน้ำแตกกะทันหัน ของษาไปรพ.ได้ทันท่วงที ษาก็คงไม่ได้แล้ว ระบบมันรวนหมดแล้ว เราขึ้นเลขสี่แล้วด้วย กลัวสภาวะจะยิ่งย่ำแย่กว่าที่เซย์เดย์เป็นอยู่ ถ้าออกมาแล้วเป็นเหมือนเซย์เดย์ ษาโอเค แต่ถ้าไม่ใช่ เป็นมากกว่าษาก็คงทำใจไม่ได้ 

พูดให้มั่นใจว่าจะดูแลษาให้ดีที่สุด ?
อาท : ทุกวันนี้ ไม่ว่าผมทำอะไร เขามีส่วนในชีวิตผมหมดเลย ผมไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังเขา ไม่มีอะไรทำให้เขาต้องลำบากใจเพราะผมแน่นอน ผมรับรองได้ และที่สำคัญผมรักเขามากพอ ถึงผมจะดูอ้อนแอ้น แต่ผมเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ที่ผมจะดูแลเขาเท่าที่ผมจะสามารถดูแลเขาได้ มันไม่มีข้อจำกัดสำหรับผม ถ้าผมมีความสุขเขาต้องมีความสุข ถ้าผมทุกข์ ผมจะไม่ให้เขามาทุกข์กับผมมากกว่า 

ษา : จริงๆ ภูมิใจเขาหลายเรื่อง เราไม่คิดว่าจะเจอผู้ชายที่ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ ไม่อะไรเลย ขยันทำงาน อยู่บ้าน สิ่งเดียวที่เขารักที่สุดคือการแข่งรถ เราก็เป็นห่วง แต่เราไปดูที่สนาม เราดูฝีมือเขา ดูที่เขาเซฟตี้เขาก็ดูแลตัวเองได้ ทุกครั้งที่เขาลงสนามภาวนาทุกครั้งว่าอย่าเกิดอะไรขึ้น ดีใจที่ยังมี ยังเหลือให้วรรณษาอยู่บนโลกใบนี้ เข้ากับแม่เราได้โดยไม่พูดอะไร เข้ากับลูกเราได้โดยพยายามดูการสอนของเรา ษาห้าว ถ้าไม่พอใจษาก็จะว่าเลย แต่กับเขาว่าไม่ลง แรงๆ แบบแต่ก่อนไม่มีแล้ว

อาท : สัญญาครับ ผมอยู่กับเขามาสี่ปี อาทถามเขาว่าตั้งแต่วันแรกจนปัจจุบันนอาทเปลี่ยนไปหรือเปล่า

ษา : เราเหมือนเจอเขาวันแรกยังไงก็อย่างนั้น เหมือนกับเพิ่งเจอกันเมื่อวานทุกครั้ง ตื่นลืมตาขึ้นมาแล้วเจอผู้ชายคนนี้ ไม่ได้มีความเบื่อหน่าย หรือชินแล้วกับผู้ชายคนนี้