”ชาดา” อัด คณะกรรมวัตถุอันตรายปีก ขรก. ตัวการยื้อแบน 3 สารพิษ ลั่นหากยกเลิกไม่สำเร็จ 3 รมว. กับ 1 รมช.ที่เกี่ยวข้องต้องลาออก
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่โรงแรมศิวา รอยัล จ.พัทลุง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย(ภท.)ให้สัมภาษณ์กรณี ความพยายามยกเลิกสารเคมีเกี่ยวกับการเกษตร 3 ชนิด ประกอบด้วย พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ว่า เรื่องนี้มีผลประโยชน์มายาวนานแล้วก่อนที่ ครม. ชุดนี้จะเข้ามาทำงาน แต่เมื่อพวกเราเข้ามา เราไม่ยอมรับทำให้เกิดผลกระทบ ซึ่งวันนี้รัฐมนตรีทุกคนเห็นด้วยที่จะให้ยกเลิกสารเคมีอันตรายแต่เพราะเหตุใดจึงยังทำไม่ได้ ก็เพราะกรรมการในคณะกรรมการวัตถุอันตราย เป็นปีกข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็รู้แล้วว่ามีใครบ้าง แล้วคนพวกนี้อยู่กับผลประโยชน์ตรงนี้มานาน เช่น กรณีพาราควอต ที่มีการวิจัยออกมาว่าการใช้สารพาราควอตไม่มีสารพิษตกค้าง แต่ตนบอกได้เลยว่ากรณีที่จะไม่มีสารพิษตกค้างนั้น คือต้องใช้น้ำบริสุทธิ์ที่มีความสะอาดใกล้เคียงกับน้ำกลั่น ซึ่งใช้น้ำที่สะอาดจริงๆผสมกับพาราควอต แต่ในทางปฏิบัติไม่มีเกษตรกรคนไหนใช้น้ำสะอาดเทียบเท่าน้ำกลั่น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแผ่นดินไทยเมื่อสำรวจแล้วยังมีสารพาราควอตตกค้างอยู่
เมื่อถามว่า ครั้งนี้จะสามารถทลายระบบข้าราชการที่อยู่ในสัดส่วนของคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้หรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ตนคิดว่าคนไทยก็ไม่รู้จะพึ่งใคร และแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการวัตถุอันตรายใหญ่กว่ารัฐมนตรี
“ผมแนะนำว่าถ้าเกิดแบน 3 สารนี้ไม่ได้ 3 รัฐมนตนตรี ประกอบด้วยรมว.สาธารณสุข รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ รมว.อุตสาหกรรม รวมทั้ง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ของประเทศไทยควรลาออกไปซะ เพราะเมื่อประชาชนไม่เอาแล้วแต่คณะกรรมการยังมีมติมารองรับอีก ซึ่งไม่สอดคล้องกันมันเป็นเรื่องน่าอดสูของประเทศไทยมาก ดังนั้น 4 รัฐมนตรีควรออกไปและไม่มีหน้ามาเป็นรัฐมนตรี เพราะหาก 4 รัฐมนตรีบอกว่าไม่เอา แต่คณะกรรมการยังยืนยันว่าให้ใช้อยู่ ผมก็คิดว่าประเทศนี้อดสูแล้ว”นายชาดา กล่าว
เมื่อถามว่า มีใครมาข่มขู่นางสาวมนัญญา ที่ออกมาเดินหน้าต่อต้าน 3 สารพิษหรือไม่ นายชาดา กล่าวเพียงสั้นๆว่า “อยากให้มาขู่ผม ถ้ามาขู่ผมก็เจอกันเลย ของผมไม่ขู่ เพราะของผมของจริง” อย่างไรก็ตาม ตนได้ ให้กำลังใจน.ส.มนัญญา ในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนที่มีข่าวว่าน.ส.มนัญญา ป่วยเพราะเครียดจากการทำงานเรื่องการต่อต้าน 3 สารพิษก็อาจมีส่วนบ้าง แต่แต่สาเหตุหลักคงเป็นเรื่องของการทำงานหนักมากกว่า