"บิ๊กแดง" ซัดนักการเมืองพบ “โจชัว หว่อง” มีวาระซ่อนเร้น วางแผนคบคิด หรือไม่ จวกยับพวกคอมมิวนิสต์เก่า นักเรียนนอกซ้ายจัดดัดจริต อ้างตัวเป็นประชาธิปไตย ใช้วาทกรรมจาบจ้วง ลั่นไม่มีวันให้แก้ รธน.มาตรา 1 เด็ดขาด
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่หอประชุมกิตติขจร กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” ทั้งนี้มีการเชิญนักเรียน นิสิต นักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้นำองค์กร นักศึกษาวิชาทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ศิลปินดาราเข้าร่วม อาทิ นายนิติพงษ์ ห่อนาค นางสินจัย เปล่งพานิช นายจิรายุส วรรธนะสิน หรือ “โจ นูโว”
พล.อ. อภิรัชต์ บรรยายพิเศษหัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” โดยได้เปิดภาพ โจชัว หว่อง พร้อมกล่าวว่า แกนนำที่มีวาทกรรม พร้อมกับโชว์ภาพ ถ่ายภาพคู่ โพสต์ให้เห็น มาเมืองไทยไม่รู้กี่รอบ มาพบกับบุคคลประเภทไหน การพบการมีวาระซ่อนเร้น วางแผนคบคิดหรือไม่ แถมขณะเกิดเหตุในฮ่องกง ไปเยี่ยมให้กำลังใจให้การสนับสนุน ในเว็บไซต์มีหมด อยากถามว่ามีคนพยายามยั่วยุปลุกปั่น ใช้โซเชียล การโฆษณามีปั่นสมองน้องๆนักศึกษาให้ออกมาแบบฮ่องกง ถามว่าจะออกมาหรือไม่ เหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเมื่อปี 2553 นิสิต นักศึกษา มีความอ่อนไหวมาก เด็กไม่รู้เรื่องไม่เคยได้ยิน ภาพเหล่านี้ใช้ระบบเพิ่มข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พล.อ.อภิรัตน์ กล่าวต่อว่า ประเทศเราอยู่ได้ด้วยองค์ประกอบหลัก 3 เสา มาจากประชาชน หลังคาคือพระมหากษัตริย์ 1.อำนาจนิติบัญญัติ มาจาก ส.ส. ที่เลือกมา ส.ว. ตามรัฐธรรรมนูญ ต่อสู้กันในสภาฯ ไม่เกี่ยวกับตน ทหารถอยห่างออกมาแล้ว เป็นเรื่องของการเมืองไป 2.อำนาจบริหาร นายกรัฐมนตรี ข้าราชการ 3.อำนาจตุลาการ ที่ขณะนี้ถูกความพยายามทุกรูปแบบให้ ตุลาการขาดความเชื่อถือ การไม่เชื่อฟังหรือหลีกเลี่ยงอำนาจการตัดสินของศาล บางคนแทรกแซงใช้เงินซื้อ เงินซื้อความยุติธรรมในประเทศไทยไม่ได้ ถ้าคนไม่นับถือ ใครทำผิดมีเงินไปต่างประเทศดีกว่า ถ้าท่านจะยอมให้ถูกเซาะกร่อน บ้านหลังนี้จะอยู่อย่างไร
พล.อ.อภิรัตน์ กล่าวต่อว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่กับ “ไฮบริด วอร์แฟร์” เป็นทฤษฎีจากประเทศต่างๆทั่วโลกล่มสลาย คือ สงครามลูกผสม ระหว่างตามแบบ และไม่ตามแบบ อยากให้ทุกคนรู้ทันว่าเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย บางคนมีเงินให้ไปทำกิจกรรม หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ แม้เป็นแหล่งข่าวให้กับฝ่ายตรงข้าม และที่สำคัญสงครามข่าวสารข้อมูลและการโฆษณาชวนเชื่อ ประเทศไทยเกิดขึ้นหนักมาก ได้แก่ กลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ไม่กลับตัวกลับใจ มีแนวความคิดล้มล้างระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทำประเทศไทย เป็นรูปแบบคอมมิวนิสต์ กลุ่มนักวิชาการ ถ่ายทอด รุ่นสู่รุ่น ผนึกกำลังร่วมกับพวกอาจารย์ นักวิชาการ ที่ไร้จรรยาบรรณ ผนวกกันความคิด กลุ่มคอมมิวนิสต์เดิม กลุ่มอาจารย์ เรียนต่างประเทศพวกซ้ายจัด พวกประเทศล่าอาณานิคม เพื่อสร้างการโฆษณาชวนเชื่อ แล้วนำแนวความคิดของตัวเองผ่านโซเชียล โดยใช้เฟกนิวส์ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการทูต ใช้องค์กรระหว่างประเทศ องค์กรอิสระ เอาฝรั่งที่ไหนก็ไม่รู้มาร่วมถ่ายรูปหน้าโรงพักและกลุ่มชุมนุม เพื่อเห็นว่า อินเตอร์ สากล และยังมีที่เรียกว่าไซเบอร์แฮชแท็ก การโจมตีทางไซเบอร์
ผบ.ทบ. กล่าวด้วยว่า มีกลุ่มนักวิชาการบางกลุ่มลงไปเสวนา โดยที่หาข้อมูลด้วยการใช้มือไถแท็บเล็ตหาข้อมูล และสมคบคิด แล้วอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งสมคบกับพวกนักเรียนนอก ซ้ายจัดดัดจริต ที่ไปเรียนต่างประเทศในประเทศที่เคยล่าอาณานิยม และชอบใช้ 2475 เป็นตัวชี้นำ อ้างว่าตัวเองเป็น ประชาธิปไตย แต่มีวาทกรรมจาบจ้วง หรือ ให้พวกนักการเมืองบางคน นึกถึงประโยชน์ส่วนตัวไม่นึกถึงส่วนรวม หรือนักการเมืองที่อยู่ในภาคใต้ เอาเรื่องศาสนาการแบ่งแยกดินแดน ตนจึงอยากจะถามว่าเราจะเชื่อกลุ่มนักการเมืองผึ้งแตกรัง ลูกพี่หนีคดีไปต่างประทศ หรือจะเชื่อนักธุรกิจ ที่ชีวิตเกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง มีพฤติกรรมร่วมชุมนุมเผาบ้านเผาเมือง ชักศึกเข้าบ้าน เจาะพฤติกรรม ล้างสมองคนรุ่นใหม่ มีพฤติกรรมล้มล้างชาติ สถาบัน เรียกว่า "ฮ่องเต้ซินโดรม” แล้วแต่ท่านจะเชื่อใคร สุดท้ายถึงแม้เราเห็นต่าง ต้องไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง ไม่นำไปสู่การแบ่งแยกดินแดน ทหารจะอยู่เคียงข้างประชาชน ขอให้ ประชาชน นักศึกษา จำไว้ไว่า ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ คือลูกหลานของพวกท่าน
“ผมและกองทัพไม่ได้บอกว่ารัฐธรรมนูญแก้ไม่ได้ แต่ที่มีการเสนอแก้ไขมาตรา 1 ในเวทีเสวนาที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มาตรานี้เกี่ยวกับความมั่นคง ที่เกี่ยวกับเลือดเนื้อบรรพบุรุษที่รักษาขวานทองไว้ ขอบอกว่าไม่มีวัน ผมตายไป ทหารรุ่นใหม่ก็เกิดมาทดแทน มีประชาชนมาปกป้อง การแก้มาตรา 1 ก็จะกระทบ มาตราและหมวดอื่นๆ โดยกระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย ที่ไม่พูดออกมาตรงๆว่าอยากแก้อะไร เป็นความชาญฉลาดของนักวิชาการ ผมไม่ยุ่งการเมือง แต่นี่เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง จะแก้มาตราใดก็แก้ แต่ถ้าแก้มาตรา 1 จะกระทบมาตราอื่นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์แน่นอน นี้คือความฉลาดของนักวิชาการ ที่จะเริ่มต้นแก้มาตรา 1 แต่จุดประสงค์คงไม่ใช่ อยากให้พูดมาตรงๆว่าอยากแก้อะไรกันแน่" ผบ.ทบ. กล่าว