ทหารกองทัพตุรกีโจมตีกองกำลังนักรบชาวเคิร์ด ทางภาคเหนือฝั่งตะวันออกของซีเรีย อย่างหนัก ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ หลายแสนคนอพยพหนีตายโกลาหล และมีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 40 ศพ และการบุกโจมตีข้ามเขตแดนต่อกองกำลังพันธมิตรของสหรัฐ ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ถูกโจมตีอย่างหนัก
การโจมตีของทหารกองทัพตุรกี ต่อนักรบชาวเคิร์ดในนาม กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือ เอสดีเอฟ (SDF) เปิดฉากขึ้นหลายวัน หลังจากผู้นำสหรัฐสั่งถอนทหารออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดสมรภูมิสู้รบดุเดือดแห่งใหม่ ในสงครามกลางเมืองซีเรีย ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 8 ปี
รายงานจากภาคสนามเมื่อวันพฤหัสบดี โดยศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย หรือ เอสโอเอชอาร์ (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุว่า การสู้รบ 2 วันแรกมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 29 ศพ ประกอบด้วยนักรบเอสดีเอฟอย่างน้อย 23 ศพ และนักนบกบฏซีเรีย ที่กองทัพตุรกีหนุนหลัง 6 ศพ
เจ้าหน้าที่เอสดีเอฟ เผยอีกว่า การโจมตีทางอากาศของเครื่องบินรบกองทัพตุรกี และการยิงกระสุนปืนใหญ่ ยังทำให้พลเรือนเสียชีวิต 9 ราย ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในตุรกี เผยว่า นักรบชาวเคิร์ดยิงกระสุนปืนครก ข้ามแดนโจมตีเมืองอัคคาคาเล ทางภาคใต้ตุรกี ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 3 ราย รวมถึงเด็กเล็ก 1 คน.