“จุรินทร์”สั่งเก็บภาษีทุ่มตลาดเหล็ก “จีน-เวียดนาม-ไต้หวัน” ต่ออีก 5 ปี

2019-10-10 17:55:22

“จุรินทร์”สั่งเก็บภาษีทุ่มตลาดเหล็ก “จีน-เวียดนาม-ไต้หวัน” ต่ออีก 5 ปี

Advertisement

“จุรินทร์”สั่งเก็บภาษีทุ่มตลาดเหล็ก “จีน-เวียดนาม-ไต้หวัน” ต่ออีก 5 ปี


เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) สำหรับการพิจารณาวาระสำคัญ เกี่ยวกับมาตรการทุ่มตลาด คือ 1.การพิจารณาร่างผลการทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็น ชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป ตามมาตรา 57 ที่ประชุมมีมติว่า หลังจากใช้มาตรการมาแล้ว 5 ปี จะนำไปรับฟังผู้มีส่วนได้เสียหลังจากใช้มาตรการ แล้วนำมาพิจารณาว่าจะต่ออายุมาตรการต่อไปหรือไม่ โดยเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วน แผ่น และแผ่นแถบ พิจารณาต่ออายุการใช้มาตรการต่อไปอีก 5 ปี เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอว่าหากยุติการเรียกเก็บอากร AD จะทำให้มีการทุ่มตลาดต่อไป หรือทำให้การทุ่มตลาดฟื้นคืนมาอีก


2.การพิจารณาร่างผลการทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากรดซิทริก ที่มีแหล่งกำเนิดจากสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป ตามมาตรา 57 ที่ประชุมมีมติว่า มาตรการที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2547 พิจารณาต่ออายุ อากร AD ต่อไปให้เรียกเก็บในอัตราเดิม คือ ร้อยละ 57.79 ของราคาซีไอเอฟ เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอว่า หากยุติการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาดจะทำให้มีการทุ่มตลาดต่อไป หรือทำให้การทุ่มตลาดฟื้นคืนมาอีก


3.การพิจารณาร่างผลการทบทวนความจำเป็นในการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดเย็นชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน ที่มีแหล่งกำเนิดจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และไต้หวันต่อไป ตามมาตรา 57 ที่ประชุมมีมติ เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด เนื่องจากมีข้อมูลแสดงความเป็นไปได้ที่จะมีการทุ่มตลาดต่อไปหรือฟื้นคืนมาอีก รวมทั้งยังมีแนวโน้มในการขายจัดราคาได้ในอนาคต และหากยุติการใช้มาตรการนี้ อาจจะเกิดการทะลักของสินค้าเข้ามาในราคาที่มีการทุ่มตลาด ทำให้อุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดเย็นในประเทศไทยเกิดความเสียหายต่อไป จึงให้จัดเก็บในอัตราเดิมต่อไปอีก 5 ปี และหลังจากนี้จะเอาไปรับฟังความคิดเห็นประชาชน และบังคับใช้ต่อไป


โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุม มีกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งทำหน้าที่เลขาฯรายงานเรื่องเพื่อทราบ คือ 1.สรุปผลการเข้าพบหารือระหว่างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย (กลุ่ม 7 สมาคม) กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กไทยและเหล็กโลก โดยมีประกาศกฏกระทรวง 15 ฉบับ โดยตั้งใจจะให้มีผลบังคับใช้ได้กลางเดือน พ.ย.2.สรุปสถานะการฟ้องร้องและร้องเรียนที่เกิดจากการใช้มาตรการเยียวยาทางการค้า ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2562 หลังจากออกมาตรการเยียวยาทางการค้า มีการฟ้องร้องและร้องเรียน ที่มีการกำหนดอากรตอบโต้ ในแต่ละรายไม่เท่ากัน โดนส่วนใหญ่ผู้นำเข้าเป็นผู้ฟ้องร้องจากความไม่พอใจในมาตรการ โดยสรุปมีผู้ฟ้องร้องขณะนี้ 7 กรณี 3.ความคืบหน้าในการจัดทำอนุบัญญัติตามพระราชบัญญัติการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 4.สรุปผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณารายละเอียดทางเทคนิคของสินค้าเหล็ก กรณีการยกเว้นการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดเป็นม้วน แผ่น และแผ่นแถบ ที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น