นักวิชาการชี้ถุงบิ๊กแบ็กปนเปื้อนสารตกค้างต้องกำจัด

2019-10-10 16:25:11

นักวิชาการชี้ถุงบิ๊กแบ็กปนเปื้อนสารตกค้างต้องกำจัด

Advertisement

ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ลั่นต้องรื้อบิ๊กแบ็กออกจากหาดทับสะแก นักวิชาการระบุการนำถุงบรรจุผงคาร์บอนแบล็คตกค้างมาบรรจุทรายต้องนำไปกำจัดทิ้ง


จากที่ฝ่ายปกครอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองท้องถิ่น ( อปท.) นำเครื่องจักรกลหนักวางถุงบิ๊กแบ็กจากพลาสติกสีดำ 1,000 ชุด บริเวณชายหาดความยาว 800 เมตร หมู่ 2 บ้านทุ่งประดู่ ต.ทับสะแก ต่อมาพบว่าถุงบิ๊กแบ็กบางส่วนได้รับความเสียหายจากคลื่นทะเลและพบคราบฝุ่นสีดำบริเวณชายหาด ทางจังหวัดเข้าไปตรวจสอบพบว่าถุงบิ๊กแบ็กเคยใช้บรรจุสารเคมีประเภทคาร์บอนจากประเทศจีน สำหรับการวางบิ๊กแบ็กตามแนวชายหาดเนื่องจากผู้รับเหมาทิ้งงานตั้งแต่เดือนธ.ค. 2561 ทำให้ก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นที่หาดทุ่งประดู่ความยาว 1,175 เมตร งบประมาณ 60 ล้านบาท ก่อสร้างได้เพียง 400 เมตร หลังทำสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2560


เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าที่ผ่านมาได้สั่งการให้นายภิรมย์ นิลทยา รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและรายงานให้ทราบทุกประเด็นในข้อกฎหมายจากการใช้ถุงดำทำบิ๊กแบ็ก และมอบหมายให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดทำเอกสารชี้แจงสื่อมวลชนเพื่อเสนอแนวทางการทำงานของหน่วยงานรัฐ แต่ขณะนี้ยอมรับว่ายังไม่ได้รับรายงานสรุปผลการประชุม ยืนยันว่าถุงดำทั้งหมดต้องรื้อออกเร็วๆนี้โดยใช้งบป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แก้ไขปัญหา แต่ขณะนี้ขอวางบิ๊กแบ็กไว้ก่อนจนกว่าจะมีของใหม่มาทดแทน และขอเรียนว่างบสร้างเขื่อนไม่ใช่งบประมาณของจังหวัด


ด้านแหล่งข่าวจากนักวิชาการ ระบุว่า เมื่อตรวจพบว่าถุงมาจากโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี หน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องไปตรวจสอบที่โรงงานต้นทางถึงการนำถุงดังกล่าวออกมาใช้งานว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากพบว่าเป็นถุงที่บรรจุสารเคมีนำเข้าจากต่างประเทศ ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ถือว่าถุงดังกล่าวเป็นสิ่งปฏิกูลที่ใช้แล้ว หากจะนำออกไปใช้ประโยชน์นอกโรงงานจะต้องมีการขออนุญาตตามขั้นตอนของกฎหมายและจะต้องไม่มีสารตกค้างภายใน แต่กรณีนี้เมื่อพบผงคาร์บอนแบล็คตกค้างอยู่ภายในถุงพลาสติกที่นำมาใส่ทรายทำบิ๊กแบ็ก ถือว่าจะเข้าข่ายมีสิ่งตกค้างโรงงานจะต้องนำถุงไปกำจัดตามหลักวิชาการเท่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบว่าสิ่งที่ตกค้างในถุงจะเป็นวัตถุอันตรายด้วยหรือไม่