ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น หรือ เอชเอสบีซี (HSBC) ธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลกแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศแผนปลดพนักงาน 10,000 คน หรือกว่า 4 % ของพนักงานที่มีอยู่ทั่วโลก ขณะที่นายโนเอล ควินน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ คนใหม่ พยายามหาทางลดค่าใช้จ่าย ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกซบเซา
รายงานในหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส ฉบับวันอาทิตย์ ระบุว่า กลุ่มบริษัทเอชเอสบีซี ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและอันดับ 7 ของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ เตรียมปลดพนักงานทั่วโลก 10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานกลุ่มเงินเดือนสูง ส่วนหนึ่งของความพยายามของควินน์ ในการลดค่าใช้จ่ายขององค์กร ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะดิ้นรน เพื่อปรับตัวให้เข้ากับอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง รวมทั้งปัญหาการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป หรือ เบร็กซิต และสงครามการค้ายืดเยื้อระหว่างสหรัฐกับจีน
จากรายงานชั่วคราวประจำปี พ.ศ. 2562 ของเอชเอสบีซี นับถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2562 บริษัทมีพนักงานเต็มเวลา ประจำอยู่ในสำนักงานสาขาทั่วโลก 237,685 คน
ความเคลื่อนไหวของเอชเอสบีซี เกิดขึ้นเพียงเดือนเดียว หลังการลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ ของนายจอห์น ฟลินต์ ที่เข้ามาบริหารงานได้เพียง 18 เดือน ซึ่งก่อนการลาออกฟลินต์ได้ประกาศแผน เลิกจ้างพนักงานทั่วโลกประมาณ 4,000 คน ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรับมือกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ผลกำไรสุทธิของเอชเอสบีซี ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 18.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 257,604 ล้านบาท
เอชเอสบีซีเคยปลดพนักงานครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2558 ประมาณ 50,000 คนทั่วโลก รวมทั้งขายกิจการที่ไม่ทำผลกำไรในตุรกีและบราซิล เพื่อนำเงินมาขยายการลงทุนในตลาดเอเชีย โดยเฉพาะที่จีนแผ่นดินใหญ่.