มีผู้สมัครแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีศรีลังกา ที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 16 พ.ย.เดือนหน้า มากเป็นประวัติการณ์ถึง 35 คน มากกว่าเกือบ 2 เท่า ของจำนวนผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อปี พ.ศ. 2558 ขณะที่ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา ผู้นำคนปัจจุบัน ตัดสินใจไม่ลงแข่งขันอีก ทำให้ตัวเต็งที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ นายโกตาพญา ราชปักษา อดีตรัฐมนตรีกลาโหม
การเลือกตั้งประธานาธิบดีศรีลังกา คาดว่าประเด็นหลักจะอยู่ที่ความมั่นคง หลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีหลายระลอก เมื่อเดือน เม.ย. มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250 คน และกลุ่มไอเอสออกประกาศกล่าวอ้างความรับผิดชอบ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
นายมหินทา เดชะปรียา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติศรีลังกา กล่าวว่า จำนวนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมากถึง 35 คน สร้างปัญหาหนักให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น จำนวนผู้สมัครลบสถิติสูงสุดของการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี พ.ศ. 2553 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 22 คน ผู้แข่งขันทั้ง 35 คน รวมถึงพระสงฆ์ 2 รูป ชาวมุสลิม 4 คน คนเชื้อสายทมิฬ 2 คน และผู้หญิง 1 คน
นายเดชะปรียา เผยอีกว่า ตามจริงแล้วมีผู้สมัครแข่งขันชิงตำแหน่งผู้นำประเทศครั้งนี้ถึง 41 คน แต่วางเงินค่าธรรมเนียม ก่อนถึงขีดกำหนดเส้นตายได้ทัน 35 คน อีก 6 คนตัดสินใจขอถอนตัว
การเลือกตั้งครั้งนี้ ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา ผู้นำคนปัจจุบัน ตัดสินใจไม่ลงแข่งขัน เพื่อครองอำนาจต่ออีกสมัย และพรรคเสรีภาพศรีลังกา หรือ เอสแอลพีพี (SLPP) ยังไม่เลือกตัวแทนพรรคลงแข่งขันอย่างเป็นทางการ
ทางด้านนักวิเคราะห์การเมืองศรีลังกาหลายสำนัก ส่วนใหญ่มองว่า ตัวเต็งที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้มากที่สุด มีอยู่ 2 คนคือ นายสาจิต เปรมทาส วัย 52 ปี รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะแห่งชาติ สังกัดพรรคความสามัคคีแห่งชาติ หรือ ยูเอ็นพี ของนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงห์ และนายโกตาพญา ราชปักษา อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และน้องชายของอดีตประธานาธิบดีมหินทา ราชปักษา ที่ได้รับความนิยมจากผลงานการปราบปรามกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมจนราบคาบ.