ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการประท้วงรุนแรงต่อต้านรัฐบาลอิรักในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการประท้วงยืดเยื้อ เพิ่มเป็น 104 คนแล้ว และบาดเจ็บมากกว่า 6,000 คน
โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกอย่างน้อย 8 คน ในการปะทะกันครั้งใหม่ระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคงและกลุ่มผู้ประท้วงในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงแบกแดด หลังจากตำรวจ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพติดอาวุธ ใช้กระสุนจริงยิงผู้ประท้วง ที่ทะลักลงสู่ถนนไม่กี่ชั่วโมงหลังรัฐบาลประกาศแผนการปฏิรูปเพื่อพยายามผ่อนคลายความโกรธแค้นของประชาชน กรณีการทุจริตคอร์รัปชั่นในหน่วยงานรัฐ และปัญหาการว่างงาน
ความวุ่นวายครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายความมั่นคงและการเมืองครั้งใหญ่สุดสำหรับรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอาเดล อับดุล มาห์ดี ตั้งแต่เข้าบริหารประเทศเมื่อ 1 ปีก่อน การปะทะกันจุดชนวนให้เกิดความหวาดกลัวว่า จะเกิดความรุนแรงเรื้อรังครั้งใหม่ และกลุ่มหัวรุนแรงต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม หรือไอเอส อาจฉกฉวยประโยชน์จากการประท้วงครั้งร่วม เข้ามาก่อความรุนแรงได้
ก่อนการปะทะกันครั้งล่าสุดในเขตชุมชน ซาดร์ซิตี้ ในกรุงแบกแดด โฆษกกระทรวงมหาดไทยอิรัก แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 104 คน ซึ่งรวมทั้งสมาชิกของกองกำลังรักษาความมั่นคงด้วย 8 นาย ตั้งแต่เริ่มต้นความรุนแรงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่วนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 6,107 คน ซึ่งรวมทั้งตำรวจและทหารมากกว่า 1,000 นาย และอาคารหลายสิบหลังถูกจุดไฟเผา แต่ปฏิเสธว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงยิงเข้าใส่ผู้ประท้วงโดยตรง
2 ปีหลังจากอิรัก ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มนักรบไอเอส ความมั่นคงในประเทศดีขึ้น แต่ปัญหาการคอร์รัปชั่นกลับแพร่หลายและดาษดื่น, โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหาย ก็ยังไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม และงานก็หายากขึ้น