สุดวิสัย หรือ ไฟอาถรรพณ์ ? ย้อนอดีตน้ำตกเหวนรก ช้างตกตายทุกปี - หายสาบสูญทั้งโขลง !

2019-10-06 11:00:36

สุดวิสัย หรือ ไฟอาถรรพณ์ ? ย้อนอดีตน้ำตกเหวนรก ช้างตกตายทุกปี - หายสาบสูญทั้งโขลง !

Advertisement

ค่ำคืนวันที่ 5 ตุลาคม 2562 ในป่าอันสงัดนิ่ง ยังมีสัตว์ป่าหลายชีวิตเดินหน้าหากินอยู่อย่างไม่รู้หน่ายเหนื่อย แต่ท่ามกลางความมืดมิดนั้นกลับมีโขลงช้างป่าโชคร้ายประสบเหตุสุดสะเทือนใจ โดยมีรายงานว่า ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกเหวนรกเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้าง ชุดกู้ภัยอุทยานฯ และสัตวแพทย์ ได้เข้าช่วยเหลือช้าง 2 ตัวที่ยังมีชีวิตอยู่หลังโขลงของพวกมันตกลงไปตายอนาจถึง 6 ตัว ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือช้างที่รอดชีวิตทั้ง 2 ตัวขึ้นมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว ส่วนช้างอีก 6 ตัวที่ตายไปนั้น เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการกู้ซาก 



สำหรับ น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกที่เกิดจากคลองท่าด่าน เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นน้ำตกที่มีความสูงและสวยงามมากแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ในบริเวณ กม. ที่ 24 บนทางหลวงหมายเลข 3077 จากบริเวณจอดรถต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร น้ำตกมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นที่ 1 มีความสูงประมาณ 50 เมตร เป็นหน้าผาลาดชัน ฤดูน้ำหลากน้ำจะไหลเชี่ยว ทำให้สายน้ำที่พุ่งตัวสู่แอ่งน้ำข้างล่างมีเสียงดังและละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว ส่วนชั้น 2 และ 3 ค่อนข้างอันตรายไม่ค่อยเปิดให้เข้าชม






อย่างไรก็ตาม ทัศนียภาพของน้ำตกเหวนรกนั้น หากได้ไปเที่ยวชมในฤดูฝนจะมีน้ำมาก ละอองน้ำที่กระเซ็นสายต้องกับแสงอาทิตย์จะถักทอเป็นสายรุ้งวิจิตรงดงามน่าตื่นใจ แต่หากไปเยือนในฤดูร้อนที่น้ำน้อย อาจผิดหวังในความตั้งใจเพราะทุกอย่างจะเป็นในทิศทางตรงกันข้าม เห็นแต่เพียงหน้าผาแห้งๆ ราวกับไร้ชีวิต โดยระหว่างทางเดินมายังน้ำตกเหวนรกแห่งนี้ จะมีแนวกั้นเป็นคันปูนอยู่ห่างๆ กัน โดยสร้างขึ้นเพื่อป้องกันสัตว์ป่าหรือช้างป่าพลัดตกไปยังน้ำตก จนเกิดเป็นเหตุเศร้าซ้ำซ้อนขึ้นอีก





อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ในปี 2530 จะมีช้างตกลงไปยังผาข้างล่างปีละตัวหรือสองตัวเสมอ และการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดคือปี 2535 มีช้างโขลงหนึ่งจำนวน 8 ตัว หลงเข้ามาและถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปตายทั้งหมด ทำให้ทางอุทยานแห่งชาติต้องสร้างแนวป้องกันนี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันอันตรายแก่ช้างป่าและสัตว์น้อยใหญ่ในป่า





ทั้งนี้ เมื่อ 27 ปีก่อนเคยมีเหตุการณ์น่าสลดใจเกิดขึ้นมาแล้ว และครั้งนั้นผืนป่าไทยได้สูญเสียช้างป่าไปถึง 8 ตัวด้วยกัน ยังความตระหนักรู้ในการปกป้องช้างและสัตว์ป่าให้พ้นจากอันตรายที่ใกล้แค่คืบ โดยในครั้งนั้นเหตุเกิดขึ้นกลางดึกของคืนวันที่ 3 ส.ค. 2535 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายตรวจของอุทยานว่า ที่น้ำตกเหวนรก มีช้างหลายตัวตกลงไป จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบภาพแสนอเนจอนาถใจยิ่งนัก เพราะมีลูกช้างตกน้ำตายที่บริเวณชั้นสองของน้ำตก คาดว่า ตกลงมาจากบนหน้าผาของน้ำตก ซึ่งสูงกว่า 200 เมตร โดยมีช้างตกลงมา 3 ตัว ตายไปแล้ว 2 ตัว ซึ่งซากช้างตัวหนึ่งลอยติดโขดหินชั้นที่ 2 ของน้ำตก



ส่วนอีกซากได้ไหลตกไปน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งน้ำเชี่ยวมาก ส่วนอีกตัวหนึ่งยังไม่ตาย แต่ได้รับบาดเจ็บ ถูกน้ำซัดขึ้นไปอยู่บนโขดหินกลางน้ำตก ซึ่งเป็นที่แคบมากอยู่ได้เพียงกลับตัวได้ โดยมีแม่ช้างและลูกช้างอีกตัวหนึ่งพยายามจะลงไปช่วยลูกของมัน แต่ลงไปไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียงร้องลั่นป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถลงไปช่วยเหลือได้ และต้องรอฟ้าสว่าง ขณะที่ การช่วยเหลือได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยมีกำลังทหารสมทบกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ระดมเครื่องมือไต่เขาลงไป และมีเฮลิคอปเตอร์บินให้การสนับสนุน แต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะหน้าผาของน้ำตกลื่นและลาดชัน

ต่อมา เวลาประมาณ 10.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเกิดขึ้นอีก โดยแม่ช้างได้ตัดสินใจลงไปช่วยลูกของมันที่รอความช่วยเหลืออยู่บนโขดหิน แต่น้ำตกไหลแรงมาก แม่ช้างไม่สามารถทัดทานแรงน้ำได้ จึงไหลไปตามแรงน้ำตกและหล่นลงไปในน้ำตกชั้นที่ 3 ซึ่งทั้งลึกและเชี่ยวมากกว่าชั้นแรก





ส่วนลูกน้อยที่ติดตามแม่ของมันอีกตัวหนึ่ง เมื่อเห็นแม่ของมันลงไปในน้ำ จึงกระโดดตามลงไปด้วย จึงตกหน้าผาไปทั้งคู่ รวมช้างโขลงนี้เสียชีวิตไปแล้ว 4 ตัว เป็นแม่ช้าง 1 ตัว ลูกช้าง 3 ตัว

เช้ามืดของวันที่ 5 ส.ค. พบว่า ลูกช้างตัวที่ติดโขดหิน และแม่ช้างได้ลงไปช่วย เสียชีวิตแล้ว โดยถูกน้ำซัดไปติดกับชะง่อนหินกลางน้ำตกชั้นที่ 2 ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกช้างตัวนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังไม่ยอมกินอาหารที่เจ้าหน้าที่เอาไปให้ เป็นเวลา 2 วันเต็มๆ จึงหมดแรง และประกอบกับตลอดคืนที่ผ่านมา มีฝนตกซ้ำอีก ทำให้น้ำในน้ำตกเชี่ยวมากขึ้น จึงพัดเอาลูกช้างจมน้ำตายไป เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ได้พยายามจะกู้ซากลูกช้างขึ้นมา แต่ว่าลูกช้างอยู่กลางน้ำตกติดกับชะง่อนหินหน้าผาชั้นที่ 2 ซึ่งพร้อมจะร่วงไหล เพราะน้ำเชี่ยวมาก และเกรงว่า อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่พลัดตกลงไปได้ จึงได้ยุติชั่วคราวรอให้นำ้ลดความแรงลงบ้าง





ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ไปสำรวจบริเวณต้นน้ำตกชั้นที่ 3 ได้พบศพลูกช้างเพิ่มเติมอีก 2 ตัว เป็นช้างอายุ 2 ขวบกว่าหนึ่งตัว และอายุขวบกว่าอีกหนึ่งตัว ทั้งนี้ นายทัศนัย เปิ้นสมุทร ผช.หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ตำแหน่งขณะนั้น) กล่าวว่า ศพลูกช้างที่พบภายหลังน้ี เข้าใจว่าเป็นลูกช้างในโขลงเดียวกัน และตกเหวเสียชีวิตพร้อมกัน แต่ศพจมอยู่ใต้น้ำ จึงไม่พบในครั้งแรก และเพิ่งขึ้นอืดลอยขึ้นเหนือน้ำ รวมแล้วมีช้างตายทั้งหมด 7 ตัว แบ่งเป็นแม่ช้าง 1 ตัว ลูกช้าง 6 ตัว

กระทั่งวันต่อมา พบศพแม่ช้างอีก 1 ตัวลอยขึ้นอืดอีกตัวหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า แม่ช้างตัวนี้อาจจะช่วยลูกแล้วถูกกระแสน้ำพัดตกลงมา แต่เพราะลำตัวหนัก จึงจมอยู่ใต้น้ำ รวมช้างเสียชีวิตทั้งสิ้น 8 ตัว



ณ เวลานั้น ผช.หัวหน้าอุทยานฯ ได้ออกมาให้ข่าวอีกว่า ซากทั้งหมดไม่สามารถนำขึ้นมาจากน้ำได้ จะต้องใช้วิธีชำแหละเพื่อนำโครงกระดูกไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ส่วนการทำโครงเหล็กหรือรั้วกั้นบริเวณหน้าผานั้น เดิมเคยสร้าง แต่พวกช้างได้ทำลายพังจนหมดสิ้น โดยผู้ใหญ่จะจัดส่งนักวิชาการมาศึกษา เพื่อที่จะหาทางป้องกัน ณ เวลานั้น เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า อาจมีลูกช้างเสียชีวิตมากกว่านี้ก็เป็นได้ เพราะว่าช้างโขลงนี้ จะอยู่รวมกันประมาณ 10 ถึง 12 ตัว ซึ่งหลังจากมีลูกช้างตกเหวแล้ว ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้ใดพบกับช้างที่เหลือในโขลงนี้อีกเลย

สะเทือนใจ "ช้างป่า" ตกเหวตาย 6 ตัว ระดม จนท.ช่วยอีก 2 ตัว







ขอบคุณข้อมูล ไทยรัฐออนไลน์