"ปิยบุตร" ชี้ถึงเวลาองค์กรตุลาการ ศาล ผู้พิพากษา หาจุดสมดุล

2019-10-05 19:20:18

"ปิยบุตร" ชี้ถึงเวลาองค์กรตุลาการ ศาล ผู้พิพากษา หาจุดสมดุล

Advertisement

"ปิยบุตร" เผยผู้พิพากษายิงตัวเองพยามติดต่อแจ้งปัญหาให้ทราบ ชี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าพูดคุยระหว่างองค์กรตุลาการ ศาล ผู้พิพากษา เพื่อหาข้อตกลงเป็นแนวทางต่อไป เกี่ยวกับผู้บริหารศาลเข้ามาดูร่างคำพิพากษาจะเอาจุดไหนที่สมดุลระหว่างการให้ความเป็นอิสระกับองค์คณะ พร้อมกับรักษาแนวคำพิพากษาให้สอดคล้องต้องกันทั้งระบบ 

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณี นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นศาลจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดี และต่อมาทางพรรคอนาคตใหม่ได้เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับสาเหตุของการตัดสินใจดังกล่าวว่า นายคณากรได้เคยเขียนเข้ามาหาทางกล่องข้อความเฟซบุ๊กแฟนเพจพรรคอนาคตใหม่ และเฟซบุ๊กแฟนเพจของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. ซึ่งข้อความแรกถามมาว่า พรรคมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับการประกันหลักความเป็นอิสระผู้พิพากษาในการตัดสินคดี ไม่ให้มีผู้บริหารศาลแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หลังจากนั้นก็เขียนมาสั้นๆ อีกว่า ต้องการติดต่อเพื่อเปิดเผยข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการที่ท่านคิดว่ามีกระบวนการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมต่างๆ ซึ่งทางเราพยามตรวจสอบว่าเรื่องราวต่างๆ นั้นเป็นอย่างไร หากแต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เสียก่อนเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ซึ่งก่อนที่ท่านผู้พิพากษาจะยิงตัวเองนั้น ทางเฟซบุ๊กส่วนตัวท่านได้มีการโพสต์เอกสารแถลงการณ์ 25 หน้า ที่สื่อมวลชนคงได้เห็นกันแล้ว รวมถึงโพสต์คลิปก่อนยิงตนเอง แต่ปรากฏว่าหลังเกิดเหตุการณ์ ไม่ทราบว่าคลิปและเอกสารต่างๆ นั้นหายไปจากเฟซบุ๊กส่วนตัวท่านได้อย่างไร โดยหลังจากนั้น ก็ได้มีผู้หวังดีส่งเอกสารเหล่านี้และอีกสารประกอบอีกหลายชิ้นมาให้ทางพรรคอนาคตใหม่ 


"กรณีที่เกิดขึ้นนี้ มีประเด็นที่น่าสนใจคือ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะในในกล่องข้อความของผม ของพรรคอนาคตใหม่ ได้มีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นจำนวนมากที่มีความอึดอัดร้องเรียนมาแบบนี้ ว่าพวกคดีนโยบาย พวกคดีสำคัญต่างๆ สุดท้ายแล้วผู้บริหารศาลจะลงมาพิจารณา ซึ่งสามารถทำได้ตามระเบียบของศาล ที่ให้มีการตรวจคำพิพากษาโดยผู้บริหารศาลได้ แต่ประเด็นสำคัญคือ พรรคอนาคตใหม่ในฐานะที่ติดตามเรื่องกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอดคิดว่า อาจจะถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าพูดคุยกันระหว่างองค์กรตุลาการ ศาล และผู้พิพากษาแต่ละลำดับ เพื่อที่จะหาข้อตกลงกันว่า แนวทางต่อไป เกี่ยวกับเรื่องผู้บริหารศาลเข้ามาดูร่างคำพิพากษาต่างๆ นั้น จะเอาจุดไหนที่สมดุลกันระหว่างการให้ความเป็นอิสระกับองค์คณะ พร้อมกับรักษาแนวคำพิพากษาให้สอดคล้องต้องกันทั้งระบบ อาจเป็นโอกาสที่ต้องพูดคุยกันออกแบบเรื่องนี้ว่าจะเอาอย่างไร" นายปิยบุตร กล่าว 


ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีการบอกว่าเรื่องดังกล่าวมีการจัดฉาก เชื่อมโยงประเด็นการเมืองนั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่มีใครคิดที่จะมาจัดฉากด้วยเรื่องอย่างนี้ ตนคิดว่าอย่าทำลายเรื่องนี้ อย่าลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้วยการปลุกปั่นข่าวอย่างนี้เลย นอกจากที่ท่านผู้พิพากษาพูดว่า คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา คืนความยุติธรรมให้ประชาชน ตนคิดว่า ต้องคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ท่านด้วย วันนี้ท่านรอดชีวิตมาได้ถือว่าเป็นข่าวดี อยากให้มีการคุ้มครองท่าน ภรรยาท่าน รวมถึงจำเลยทั้ง 5 คนด้วย การเข้าไปกดดันต่างๆ ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเท่าที่ทราบ แม้แต่สื่อสารมวลชนเองก็ได้รับการกดดันเหมือนกันในการนำเสนอข่าวนี้ และเรื่องนี้ อย่าคิดกันโยงว่าเป็นประเด็นการเมือง เพราะนี่มันเป็นปัญหาของกระบวนการยุติธรรมที่ผู้พิพากษาคนหนึ่งท่านสะท้อนมา เรื่องนี้ขอให้คิดให้สมควรแก่เหตุ อย่าเล่นการเมืองบนชีวิตของคนให้มากเกินไป

นายปิยบุตร กล่าวถึงกรณี การเตรียมเรียก พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มาสอบถามในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับการที่หัวหน้าพรรค 7 พรรคร่วม ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยืนยันว่า ในการประชุม กมธ.เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีกลุ่มนักศึกษาประชาชน ที่เคยถูก พล.ต.บุรินทร์แจ้งความไม่ว่าจะเป็นคดี ป.อาญา ม.116 คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งพอเห็นมีสภาผู้แทนราษฎรกลับมา มี กมธ.ชุดนี้ ก็เลยร้องมาที่ กมธ. ซึ่งวันนั้น ตนเองในฐานะประธาน กมธ.ก็พูดในที่ประชุมว่า เรื่องนี้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ และสุดท้ายต้องสอบข้อเท็จจริง และหนีไม่พ้นเรียกบุคคลเกี่ยวข้องมาชี้แจง เป็นอำนาจของของ กมธ.กฎหมายฯ ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เกินกว่าขอบเขต และในการประชุมวันนั้นตนเองก็ได้พูดเรื่องนี้ไว้ชัดเจน