นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารพิเศษของฮ่องกง ประกาศอำนาจฉุกเฉินยุคอาณานิคมในวันนี้ เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 50 ปี ในการเคลื่อนไหวโดยมีจุดประสงค์เพื่อคลี่คลายความรุนแรงในฮ่องกงที่เกิดจากการประท้วง นางแลม ซึ่งกล่าวต่อที่แถลงข่าว ระบุว่า คำสั่งห้ามสวมหน้ากากจะมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์นี้ ภายใต้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถออกกฎหมายอะไรก็ตามที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ผู้ประท้วงจำนวนมากสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าของตนเอง เนื่องจากเกรงว่าบรรดานายจ้างอาจเผชิญหน้ากับแรงกดดัน เพื่อให้ใช้มาตรการเด็ดขาดกับพวกเขา
ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลจะห้ามใช้หน้ากากอย่างไร ในเมืองที่มีประชากร 7.4 ล้านคน ซึ่งเคยพากันสวมหน้ากากทุกวันเพื่อป้องกันโรคระบาดหลังเกิดการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส ในปี 2546
แลมใช้กฎหมายฉุกเฉินยุคอาณานิคม เพื่อห้ามใช้หน้ากาก หลังการประท้วงรุนแรงยืดเยื้อมานานเกือบ 4 เดือน มาตรการนี้ ถูกประกาศในวันนี้ หลังฮ่องกงเผชิญหน้ากับความรุนแรงทั่วเกาะเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับครบรอบ 70 ปี วันชาติจีน
แลมกล่าวว่า ความรุนแรงกำลังทำลายฮ่องกง และเจ้าหน้าที่รัฐบาลไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์แบบนี้เลวร้ายไปเรื่อย ๆ คำสั่งห้ามจึงจะมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์นี้ทันที
กฎหมายที่นางแลมประกาศใช้ เรียกว่า กฎหมายฉุกเฉิน ซึ่งต้องย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2465 และไม่เคยใช้กฎหมายฉบับนี้ หลังจากเกิดเหตุจลาจลในฮ่องกงเมื่อปี พ.ศ. 2510