กอ.รมน.แจ้งจับ 12 แกนนำฝ่ายค้านจัดเสวนาบิดเบือน

2019-10-04 10:20:59

กอ.รมน.แจ้งจับ 12 แกนนำฝ่ายค้านจัดเสวนาบิดเบือน

Advertisement

กอ.รมน.ภาค4สน. แจงความดำเนินคดี 12 แกนนำพรรคฝ่ายค้าน จัดเสวนา “พลวัฒแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่ จ.ปัตตานี นำเสนอข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ประชาชนหลงเชื่อ ทำให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่อง ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบ ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค4สน.) ได้รับมอบอำนาจจากแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค4สน. ให้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับบุคคลรวม 12 คน ประกอบด้วย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อายุ 78 ปี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อายุ 40 ปี หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พล.ท.ภารดร พัฒนถาบุตร อายุ 64 ปี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)นางชลิตา บัณทุวงศ์ อายุ 47 ปี อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลับเกษรศาสตร์ นายสมพงษ์ สระกวี อายุ 69 ปี นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อายุ 75 ปี หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายมุข สุไลมาน อายุ 70 ปี นายนิคม บุญวิเศษ อายุ 49 ปี หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายรักชาติ สุวรรณ อายุ 55 ปี นายอสมา มังกรชัย อายุ 45 ปี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อายุ 75 ปี หัวหน้าพรรคประชาชาติ และนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ อายุ 48 ปี โดยทั้ง 12 คน ได้จัดเสวนา “พลวัฒแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่บริเวณลานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี เมื่อ 28 ก.ย.2562 โดยทางเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค4สน. ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าการจัดเวทีสวนาดังกล่าวของผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนเวทีเสวนา โดยมีประชาชนร่วมรับฟังประมาณ 150 คน

ซึ่งการจัดเสวนาดังกล่าว ได้มีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์เฟซบุ๊กพรรคประชาชาติ และมีการอัพโหลดการจัดเสวนาดังกล่าวลงในช่องยูทูบ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลให้กับประชาชนทั่วไปรับรู้รับทราบ รับชม รับฟัง ลักษณะการจัดเวทีเสวนาดังกล่าว โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ได้มีการพูดนำเสนอข้อมูลในลักษณะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือ กระด้างกระเดื่องต่อประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบภายในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน