“ดร.กอบศักดิ์” เผย ประชุม ครม.เศรษฐกิจครั้งหน้า เตรียมหารือมาตรการส่งเสริมการส่งออก ชี้ตลาดอินเดีย จีน สหรัฐฯ ประเทศเพื่อนบ้าน ยังไปได้
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรรมการและเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยมีการตั้ง ครม.เศรษฐกิจขึ้นมา ประชุมแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกคุยกันเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นนำไปสู่การจัดสรรงบประมาณ และเม็ดเงินประมาณ 3 แสนล้านลงไปสู่พี่น้องประชาชนผ่านโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้มีรายได้น้อย ขณะเดียวกันก็มีการช่วยเรื่องภัยแล้วจนตอนนี้น้ำท่วมแล้วก็ดำเนินการต่อ และจะมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ชิม ช้อป ใช้ ซึ่งการลงทะเบียนมีผลตอบรับที่ดี เพราะมีคนรอลงทะเบียนถึงตี 2 ตี 3 ก็ต้องขออภัยด้วย เราจะปรับปรุงให้ดีขึ้น
ดร.กอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็มีการประชุมอีก 2 ครั้ง เป็นเรื่องของการย้ายฐาน ยิ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสกลับมา บริษัทในเมืองจีนทุกคนก็กังวลใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะสงครามการค้าจะเดินต่อเนื่อง นำมาซึ่งความกังวลใจว่าจะส่งออกไปสหรัฐฯได้อย่างไร หลายบริษัทก็เริ่มเข้ามาสู่ประเทศไทย มีคนสมัครขอข้อมูลจากเราเพิ่มขึ้นเกือบ 50 % ในช่วงที่ผ่านมาจากประเทศจีน และมีบริษัทต่าง ๆ ติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง เป็นผลดีกับประเทศไทยอย่างยิ่ง ซึ่งดำเนินการเรื่องนี้ออกเป็นมาตรการไทยแลนด์พลัส มีมาตรการสำคัญที่ไม่เคยทำมาก่อน 7 ด้าน ขับเคลื่อนร่วมกันโดยมีบีโอไอขับเคลื่อนเป็นอันดับแรก
ดร.กอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า ครั้งสุดท้ายที่ ครม.เศรษฐกิจประชุมเป็นการเอามาตรการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 44 โครงการ เม็ดเงินเกือบ 2 ล้านล้านบาท เข้ามาหารือกันว่าตรงไหนที่ติดล็อกอยู่ ตรงไหนมีปัญหา อะไรที่ขับเคลื่อนได้ดี เขียว เหลือง แดง เขียวคือ โครงการที่ไปได้ตามกำหนด เหลืองคือเริ่มล่าช้ากว่ากำหนด แดงคือเริ่มติดอุปสรรค ก็มานั่งคุยกันว่าอุปสรรคเหล่านี้จะขับเคลื่อนอย่างไร ปัญหาอยู่ตรงไหน ทั้งหมดได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการขับเคลื่อนกับกระทรวงคมนาคม ในการขับเคลื่อนโครงการเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดเม็ดเงินจำนวนหนึ่งออกมาในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลง
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำหรับการประประชุม ครม.เศรษฐกิจครั้งต่อไปมี 2 เรื่องที่จะหารือกัน คือ ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด และมาตรการส่งเสริมการส่งออก ทำอย่างไรให้ได้ 3 % ในครึ่งหลังของปี หรือจะต้องปรับเป้า ขณะเดียวกันภาคท่องเที่ยวก็สำคัญ เราได้คุยกับ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งยืนยันว่าครึ่งหลังของปี 20 ล้านคนเป็นไปได้ ก็มีมาตรการพอสมควรว่าจะเพิ่มเรื่องท่องเที่ยวได้อย่างไร ทั้งนี้ตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาแย่กว่าที่เราคาดไว้ ก็จะนำข้อมูลเศรษฐกิจในเดือน ก.ค.มาดูว่าแผ่วกว่าที่เราคาดไว้มากน้อยแค่ไหน เราจะได้คิดเพิ่มมาตรการ ด้านส่งออกถ้าโฟกัสไปตลาดอินเดีย ตลาดจีน ตลาดสหรัฐอเมริกา ตลาดเพื่อนบ้านใกล้ประเทศไทย 4 ตลาดนี้ไปได้ สิ้นค้าก็ไปได้เกือบทุกอย่าง
สำหรับหนี้ครัวเรือน ดร.กอบศักดิ์ กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนพุ่งขึ้นเร็วในรัฐบาลก่อนหน้านี้ พุ่งขึ้นเกือบ 10 % ในช่วงมีรถคันแรก บ้านหลังแรก หลังจากรัฐบาลประยุทธ์ 1 ตัวเลขค่อย ๆ ลดลงใน 3-4 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ กู้ไปทำมาหากิน
ดร.กอบศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดโครงการประชารัฐสร้างไทย ซึ่งรวมสรรพกำลังของกระทรวงการคลัง เช่น ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. กองทุนหมู่บ้าน และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ดูแลพี่น้องประชาชนฐานรากจำนวนมาก อย่างธนาคารออมสินก็มีแนวคิดเรื่องสินเชื่อหาบเร่ แผงลอย ธ.ก.ส.คิดเรื่องสินเชื่อสมาร์ท ฟาร์เมอร์ กองทุนหมู่บ้านก็มีธนาคารชุมชน ร้านค้าชุมชน ธนาคารต้นไม้ ถ้าเรารวมสรรพกำลังได้เราก็จะมีกำลังเพียงพอที่จะไปขับเคลื่อนฐานราก ในขณะนี้ประชาชนถามรัฐบาลว่าเห็นเรื่องปากท้องเขาหรือเปล่า เราเห็นเลยว่าเขาลำบากจากสินค้าเกษตรตกต่ำ ค่าเงินบาทแข็ง เราก็พยายามจะเอากำลังซื้อไปสู่เขาจากการท่องเที่ยวชุมชน สินค้าชุมชน ถ้าทำได้ก็จะช่วยขับเคลื่อนไปพร้อม ครม.เศรษฐกิจทำให้ไปได้