เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ แถลงว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังรัฐบาลเปียงยาง แถลงว่า จะรื้อฟื้นการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐ โดยขีปนาวุธลูกหนึ่งถูกยิงใกล้เมืองท่าวอนซาน ร่อนไปประมาณ 450 กิโลเมตร และขึ้นไปถึงระดับความสูง 910 กิโลเมตร ก่อนตกลงในทะเลญี่ปุ่น ซึ่งหากมีการยืนยันตามนี้ จะเป็นการทดลองขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่มีนัยสำคัญอีกครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระแสข่าวนี้ เรียกเสียงประณามทันที
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ระบุว่า มันเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ห้ามเกาหลีเหนือไม่ให้ใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า รัฐบาลเปียงยาง เพิ่งแถลงว่า การเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับรัฐบาลวอชิงตัน อาจรื้อฟื้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์นี้ หลังการเจรจาหยุดชะงักไปตั้งแต่การประชุมสุดยอดในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สิ้นสุดลงโดยไร้ข้อตกลง
รายงานการยิงขีปนาวุธปรากฏทางหน้าสื่อครั้งแรกในช่วงเช้าวันพุธ เมื่อเจ้าหน้าที่รายงานว่า มีการยิงขีปนาวุธ 2 ลูก ซึ่งอย่างน้อยลูกหนึ่งตกลงน่านน้ำของญี่ปุ่น ในเวลาต่อมา นายโยชิเดะ สึกะ ประธานสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น แถลงข่าวว่า ขีปนาวุธลูกหนึ่งอาจแตกเป็น 2 ชิ้นก่อนตกลงในทะเล
ครั้งนี้ จะเป็นการทดลองขีปนาวุธครั้งที่ 11 จากเกาหลีเหนือในปีนี้ แต่ก็สร้างความกังวลเกี่ยวกับพิสัยทำการและขีดความสามารถของขีปนาวุธรุ่นนี้ ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเคยพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำมาแล้ว ก่อนที่จะหยุดทดลองขีปนาวุธพิสัยไกลทั้งหมด
สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ รายงานว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ แสดงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับการทดลองครั้งนี้ และบอกว่ากำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ว่า เป็นขีปนาวุธที่ยิงจากเรือดำน้ำ หรือเอสแอลบีเอ็มหรือไม่ โดยการทดลองเอสแอลบีเอ็มครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ เชื่อว่าเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2559 ก่อนโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง และอีก 2 ปีต่อมา ทรัมป์และคิม สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำสหรัฐที่อยู่ในตำแหน่งคนแรกและผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ได้ประชุมร่วมกัน แต่แม้ว่า ผู้นำทั้ง 2 คน จะประชุมแบบตัวต่อตัว ก็มีความคืบหน้าน้อยมากในการบรรลุข้อตกลงแก้ปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ